บริษัทวิจัย eMarketer ฟันธงอัตราการใช้โปรแกรมปิดกั้นโฆษณา ad blocking ในสหรัฐฯจะลดลงช่วงปีนี้ แต่จะยังคิดเป็นสัดส่วนผู้ใช้เกิน 1 ใน 4 ของชาวออนไลน์ โดยอัตราการใช้งาน ad blocking บนสมาร์ทโฟนแท็บเล็ตจะลดลงเช่นกันเพราะความด้อยประสิทธิภาพของตัวระบบ
นักโฆษณาในสหรัฐฯพร้อมใจกันยิ้มรับข่าวดี เพราะ eMarketer ลดตัวเลขพยากรณ์การใช้งานระบบปิดกั้นโฆษณาออนไลน์ประจำปีนี้จาก 86 ล้านรายเหลือ 75.1 ล้านราย โดยตัวเลขนี้คิดเป็น 27.5% ของฐานผู้ใช้อินเทอร์เน็ตแดนลุงแซม มากกว่า 1 ใน 4 ของชาวออนไลน์รวม
นอกจาก 75 ล้านคนที่จะใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์ ad blocking รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งในปีนี้ งานวิจัยยังพบว่าผู้ใช้อุปกรณ์พกพาจะใช้งาน ad blocking น้อยลงเหลือ 8% เท่านั้น จุดนี้ eMarketer เชื่อว่าเป็นเพราะเทคโนโลยีปิดกั้นโฆษณาบนอุปกรณ์พกพานั้นไม่มีประสิทธิภาพเท่าเทคโนโลยีบนคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป
กลุ่มที่ใช้ระบบปิดกั้นโฆษณามากที่สุดคือกลุ่มวัยรุ่น คาดว่าผู้ใช้กลุ่ม millennial จะครองส่วนแบ่ง 41.1% สูงกว่ากลุ่ม Gen X คนทำงานที่จะกินสัดส่วนราว 26.9% ขณะที่กลุ่มผู้ใช้รุ่นใหญ่ baby boomer คิดเป็นราว 13.9%
เหตุผลที่การประเมินเป็นเช่นนี้ เพราะชาว millennial มีแนวโน้มใช้งานเทคโนโลยีปิดกั้นโฆษณามากกว่า เนื่องจากความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีที่สูงกว่าผู้ใช้ที่มีอายุอาวุโสกว่า แถมกลุ่มวัยรุ่นยังเป็นวัยอยากรู้อยากลอง จิตใจเปิดกว้างต่อการปรับใช้เทคโนโลยีใหม่บ่อยครั้งกว่า ขณะเดียวกันก็มีเวลาท่องเน็ตหรือชมวิดีโอนานกว่าผู้ใช้กลุ่มอื่น
บทสรุปของ eMarketer คือมาตราการที่เหล่า Publisher ใช้ต่อต้านเทคโนโลยีปิดกั้นโฆษณา ด้วยการปิดกั้นไม่ให้ผู้ใช้ ad blocking เข้ามาที่เว็บไซต์นั้นเริ่มได้ผล นอกจากนี้ เหล่านักการตลาดก็หันมาจับมือกับเว็บไซต์ พัฒนาโฆษณา native หรือโฆษณาที่มีเนื้อหาเหมือนเนื้อหาหลักในเว็บไซต์นั้น ซึ่งทำให้การใช้ ad blocking ไม่อาจปิดกั้นโฆษณาประเภทนี้ได้ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้อนาคตของ ad blocking เติบโตลดลง
ที่มา: MarketingDive