ไม่มีอะไรจะทำให้ผู้ใช้มือถือรู้สึกหงุดหงิดใจมากไปกว่าการบังคับให้พวกเขาดูเวบไซต์ของร้านคุณผ่านมือถือ ในขณะที่ผู้บริโภคในปัจจุบันคาดหวังไว้ว่า การเปิดดูผ่านแท็บเล็ตนั้น สะดวกและง่ายกว่า อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า 43% ของผู้ใช้แท็บเล็ตใช้เวลาในการท่องเวบนานกว่าบน Desktop
หลายๆ บริษัทจึงทำการพัฒนารูปแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อ ในทุกช่องทางการเข้าชมเวบไซต์ นำไปสู่การสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจไปในทางที่ดีนั่นเอง
1. อย่าเพิกเฉยในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ
จากยอดขายทะลุ 150 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2013 ของตลาดแท็บเล็ต แน่นอนว่าผู้บริโภคจะพกแท็บเล็ตติดตัวไม่ว่าเขาจะเดินทางไปที่ไหนก็ตาม และสามารถเข้าชมเวบไซต์ได้ตลอดเวลา แบรนด์จึงต้องหากลยุทธ์ที่เหมาะสมกับช่องทางนี้ แต่จากงานวิจัยในผู้ใช้แท็บเล็ตพบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้งานมันที่บ้าน
ข้อมูลจากภาพด้านล่าง จะเห็นได้ว่า 27% ของผู้ใช้แท็บเล็ตนั้นใช้ขณะอยู่บนเตียงในตอนกลางคืน มีผู้ใช้ถึง 46% ใช้งานขณะดูทีวีที่บ้าน มีเพียง 5% ใช้ในการทำงาน และ 23% ใช้ในทุกๆ ที่เพื่อจุดประสงค์ในการทำงานและเพื่อความบันเทิง
- ง่ายต่อการเรียกดู
- มีความสอดคล้องของเนื้อหา ไม่ต่างกับบน Desktop
- ง่ายต่อการสั่งซื้อ
ในปี 2013 เป็นปีแรกที่มีจำนวนการสั่งซื้อแท็บเล็ตแซงหน้าโทรศัพท์มือถือ และในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งในวันหยุดที่ผ่านมา 19% ของการช้อปเกิดขึ้นบนแท็บเล็ต ผู้ใช้จะตอบสนองได้ดีกว่า หากเวบไซต์นั้นสามารถตอบโจทย์ในด้านการใช้งานแก่พวกเขาได้
2. รักษาประสบการณ์ใช้งานที่ดีไว้ (User Experience)
77% ของผู้บริโภครายงานว่า หากเวบไซต์นั้นสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ไม่ดีหรือไม่เพียงพอ ความเต็มใจในการสั่งซื้อสินค้าจากแบรนด์นั้นก็จะลดลงตามไปด้วยจากข้อมูลนี้ แบรนด์จึงมีความจำเป็นต้องรักษาประสบการณ์ของผู้ใช้ หรือ User Experience ด้วยวิธีการดังนี้
- รูปแบบเวบไซต์บนแท็บเล็ตต้องดูสะอาดตา เรียบง่าย
- นำทางไปยังสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการได้อย่างง่ายดาย เช่น นำไปสู่หน้าตะกร้าสินค้า หน้าชำระเงิน
- รูปภาพและดีไซน์ที่มีสวยงาม มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ ผู้ใช้แท็บเล็ตให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เนื่องจากส่วนใหญ่พวกเขาใช้มันในการรับชมวิดีโอ เล่นเกมส์ หรือทำกิจกรรมที่สนุกสานอย่างอื่น
- ผู้ใช้ไม่ได้ใช้แท็บเล็ตในลักษณะเดียวกับที่ใช้สมาร์ทโฟน จึงไม่มีความจำเป็นต้องมีฟังก์ชันการบีบหรือซูมมากนัก แบรนด์ควรความให้ความสำคัญกับเนื้อหาและการจัดหน้าแสดงสินค้ามากกว่า
3. อย่าทำในสิ่งที่ไม่สอดคล้องกัน
ขณะที่ผู้ใช้ต้องการให้เวบไซต์มีองค์ประกอบการใช้งานเช่นเดียวกับบน Desktop แต่ไม่ได้หมายถึงการมีตัวอักษร หรือเนื้อหาข้อความจำนวนมาก เพราะนั่นแสดงถึงกลุ่มก้อนที่จัดองค์ประกอบได้ไม่ดี
แบรนด์ควรท่องไว้เสมอว่า ต้องให้ผู้ใช้รู้สึกได้ถึงประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อ มีความสะดวกในการเรียกดู และความสะดวกในการซื้อ อย่างร้าน Avenue 32 แบรนด์ร้านค้าแฟชั่นออนไลน์ได้จัดทำ Visual Content ควบคู่ไปกับเนื้อหาของข้อมูลสินค้านั้น ในส่วนนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานอยู่ในหน้าเวบได้นานขึ้น และสนใจเยี่ยมชมสินค้าต่อไป ซึ่งการออกแบบดีไซน์ใหม่นี้ทำให้มีผู้เยี่ยมชมเวบไซต์ Avenue 32 ผ่านทางมือถือและแท็บเล็ตเพิ่มขึ้นถึง 74% และเพิ่มขึ้นเป็น 89% ตั้งแต่ก่อตั้งเว็บไซต์มา
4. อย่าละเลยในช่องทางอื่นๆ
เพราะเราทุกคนอยู่ในโลกของ Multi-tasking เช่นเดียวกับผู้บริโภคที่เลือกที่จะมีส่วนร่วมกับแบรนด์จากหลายช่องทาง โดย 42 % ของผู้บริโภคนั้นใช้แท็บเล็ตในการสั่งซื้อสินค้า ซึ่งมากกว่าผ่านทางมือถือหรือคอมพิวเตอร์ หลายๆ บริษัทออกแบบเวบเพจสำหรับผู้ใช้แท็บเล็ตโดยเฉพาะ ไม่เพียงแค่แสดงรูปแบบให้มองเห็นได้ง่ายเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้บริโภคสามารถค้นพบสินค้าใหม่ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เป็นเหมือนกับแคตตาล็อกออนไลน์นั่นเอง
กุญแจสำคัญในการสร้างกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ เริ่มจากให้ความสนใจกับลูกค้าที่ใช้แท็บเล็ตในการเชื่อมต่อกับแบรนด์ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร และต้องการอะไร
จากนั้นใช้ข้อมูลเหล่านี้มาดีไซน์ให้เกิดประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ดีต่อไป
ที่มา : Econsultancy