วันนี้ Location-based Social Network ชื่อดังอย่าง Foursquare ออกมาประกาศความสำเร็จอีกขึ้นว่าบริการของพวกเขามีผู้ใช้ครบ 10 ล้านคนทั่วโลก หลังจากที่เปิดตัวมาตั้งแต่มีนาคมปี 2552 ดูโดยทั่วไป Foursquare ก็คือบริการยอดนิยมที่เราๆ ท่านๆ ให้ความสนใจ แต่อีกมุมหนึ่งความสำเร็จของ Location-based Social Network ตัวนี้มันสะท้อนความคิด พฤติกรรมอะไรของเราบ้าง เพราะ Foursquare ก็ไม่ใช่บริการรายเดียวที่ใช้กัน แต่ยังมี Gowalla, Quipster และอีกหลายสิบหลายร้อยบริการที่เราไม่รู้จัก
ก่อนจะไปดูรายละเอียด เรามาดูสถิติกันก่อน… ในวาระครบรอบ 10 ล้านคน ถ้าดูจาก Infographic ของ Foursquare ที่ทำออกมาประชาสัมพันธ์บริษัท ก็มีเนื้อหาน่าสนใจหลายอย่าง เช่น ถึงผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นคนอเมริกัน แต่ก็มีการ Check-in จากนอกสหรัฐฯ ถึง 358 ล้านครั้ง ถ้ามองในแง่ชีวิตประจำวันก็มีคน Check-in ร้านเบียร์ในเยอรมัน 1,105 ร้าน ถ้าข้ามโลกไปที่ญี่ปุ่นมีคน Check-in ร้านเหล้าสาเกถึง 6,230 ร้าน
นอกจากการ Check-in สถานที่ต่างๆ แล้ว คนก็ยังใช้ Foursquare ในการแชร์ช่วงสำคัญของชีวิตอย่าง ตัวเองแต่งงานที่ไหน ซึ่งตรงนี้มีคนบอกว่าตัวเองแต่งใน Hall ใหญ่ 225 ครั้ง แต่งงานในสวน 804 ครั้ง แต่งในโบสถ์ 5,321 ครั้ง และยังรวมไปถึงการที่มีคนแจ้งว่าลูกตัวเองเกิด 1,061 ครั้ง และมีคนยินดีกับการเกิดของเด็ก 1,750 ครั้ง และท้ายสุดมีคนแจ้งเกิดเป็น Mayor (หรือที่เมืองไทยชอบเรียกกันว่า “เจ้าที่”) วันละ 78,387 คน
ตัวเลขที่ Foursquare ยกมาทั้งหมด ตีความได้ว่าบริการ Social Network แบบอ้างอิงพิกัดพื้นที่ของผู้ใช้นั้นได้รับความนิยมถึงจุดหนึ่งแล้ว และเป็นบางสิ่งที่มากกว่าการบอกว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ทำอะไร แต่บริการแนวนี้ผู้ใช้ยังใช้มัน “แชร์ช่วงชีวิต” ของตัวเองมากขึ้นด้วย
แล้วมันบอกอะไรกับเรา? มันกำลังบอกว่า บริการ Social Network แบบอ้างอิงพื้นที่ (Location-based Social Network) เป็นการพิสูจน์แล้วว่าบริการออนไลน์ที่อ้างอิงพื้นที่เป็นนวัตกรรมที่สร้าง “คุณค่าใหม่” ให้กับชีวิตคน เราทุกคนควรหันมาใช้ประโยชน์ของการอ้างอิงพิกัดหรือพื้นที่เพื่อประโยชน์ของเรามากยิ่งขึ้น ผมลองแตกออกมาเป็นหลายๆ บทบาททางสังคมดังนี้
ถ้าคุณเป็นคนสร้างผลิตภัณฑ์ออนไลน์ – คนคุ้นเคยกับการ “Check-in” กันมากขึ้น ไม่ต้องเหนื่อยให้ความรู้กับคนเท่าไหร่แล้ว ถ้าคุณจะสร้างสิ่งใหม่ ก็เพียงมองหาแง่มุมที่แตกต่างหรือทำให้ดีกว่า Foursquare ยกตัวอย่าง I’m OK ที่เป็นบริการ Location-based ที่ให้ลูกๆ Check-in บอกพ่อแม่ว่าตัวเองไปอยู่ที่ไหน ปลอดภัยดีหรือไม่ อันนี้ก็เป็นการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการมากขึ้น
ถ้าคุณเป็นนักธุรกิจ นักการตลาด – คนในเมืองอยากรู้ว่าเขาจะหาสินค้าและบริการ หรือโปรโมชั่นต่างๆ ของคุณได้อย่างไร น่าจะเป็นโจทย์หลักของคุณ ลองดูโปรโมชั่นที่ Foursquare ทำกับ 7-11 สิครับ ผมว่ามันไม่เลวเลยทีเดียว ทำเป็นเกมเล่นสนุกก็ได้ หรือจะใช้มันบอกพิกัดของร้านค้าหรือ Outlet ของคุณก็ได้เช่นกัน
ถ้าคุณเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ – คนในเมืองมีความสนใจความเป็นส่วนตัวลดลง เริ่มมีคนใช้บริการแชร์พื้นที่ที่ตัวเองอยู่ ซึ่งมันอาจทำให้เกิดอาชญากรรมมากขึ้นก็ได้ คุณน่าจะใช้ประโยชน์จากมันในการดูแลคนในพิื้นที่ของคุณ
ถ้าคุณเป็นผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคนหนึ่งทางมือถือ – สนุกกับชีวิตของคุณด้วยการแชร์พิกัดพื้นที่ และสนุกกับระบบแต้มต่างๆ ก็ดี แต่อย่าลืมว่าความเป็นส่วนตัวของคุณก็สำคัญ ใช้แต่พอดีแล้วชีวิตจะสนุกขึ้น
ถ้าคุณใช้บริการ Foursquare กับแฟน – ตกลงกับแฟนให้แชร์พิกัด “ที่แท้จริง” อย่าหลอกลวงกันแล้วจะทำให้แฟนคุณอุ่นใจมากขึ้น!
แล้ว thumbsuper ล่ะ คิดเรื่องนี้เหมือนผมหรือเปล่า หรือมีแง่มุมอะไรที่มองแตกต่างไปบ้างไหม? แชร์กันกับเรานะครับ 😀