Foursquare บริการ Location-based ชื่อดังเริ่มเคลื่อนไหวในการหารายได้บนแพล็ตฟอร์มนี้อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวการแสดงโฆษณาหลังจากการ Check-in ที่จะแสดงโฆษณาตรงกลุ่มเป้าหมายตามที่ผู้ลงโฆษณากำหนดเพื่อแนะนำสินค้าและบริการ
หลังจากที่ Foursquare เพิ่มทุนไป 41 ล้านเหรียญสหรัฐฯ พร้อมพิสูจน์ตัวเองว่าสามารถทำเงินได้ นี่ก็เป็นการเคลื่อนไหวในการสร้างรายได้ในรูปแบบใหม่ ซึ่งโดยปกติแล้วเราจะได้เห็นการทำธุรกิจบน Foursquare โดยการแสดงโปรโมชันพิเศษต่างๆ ก่อนและหลังจากทำการ Check-in ในรูปแบบ Special Offer แต่รูปแบบใหม่นี้จะแตกต่างออกไป เพราะเป็นการแสดงโฆษณาหลังจากการ Check-in สถานที่นั้นๆ โดยจะเป็นโฆษณาที่ไม่ได้เป็นของสถานที่นั้น แต่เป็นสินค้าที่เกี่ยวกับสถานที่นั้นแทน ซึ่งโฆษณาแรกที่ทำบน Foursquare เป็นโฆษณาเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ชื่อว่า Captain Morgan โดยบริษัท Diageo
สำหรับรูปแบบที่แสดงออกมานั้นจะขึ้นมาหลังจากที่ Check-in สถานที่ที่ผู้ลงโฆษณากำหนด อย่างโฆษณาจากทาง Diageo ก็จะแสดงผลก็ต่อเมื่อมีผู้ใช้งาน Check-in ในบาร์, คลับ หรือร้านอาหาร โดยโฆษณาจะเป็นการแนะนำเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ Captain Morgan ให้ผู้ที่สนใจได้ทดลองสั่งไปดื่มขณะอยู่ที่ร้านนั้นๆ โดยเริ่มการทดลองลงโฆษณาไปตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และจะทดลองลงประมาณ 4-6 สัปดาห์
และ Diageo มีแผนที่จะทดลองการลงโฆษณาบน Foursquare กับแบรนด์เครื่องดื่มยี่ห้ออื่นๆ อย่าง Smirnoff ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้
รูปแบบของการคิดเงินบน Foursqaure นั้นจะใช้เป็น per action หรือจะคิดเงินเมื่อผู้ใช้งานแตะที่รูปหรือทำการแตะ Save for later เพื่อเก็บและส่งเป็นอีเมล์ให้ผู้ใช้งาน Foursquare ได้ดูอีกครั้ง
นอกจากแบรนด์เครื่องดื่มแล้ว ร้านขายของเล่นอย่าง Toys R Us ก็ได้ลงโฆษณาในรูปแบบนี้แล้วเช่นกัน โดยลงมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนแล้ว
การลงโฆษณานี้จะช่วยให้เจ้าของแบรนด์สามารถนำเสนอสินค้านอกสถานที่ที่แบรนด์นั้นขายอยู่ ตัวอย่างในการลงโฆษณาของทั้งสองที่คือ Captain Morgan ก็จะลงโฆษณาตามร้านอาหารหรือสถานที่ท่องเที่ยว และ Toys R Us ก็ลงโฆษณาไว้ตามที่ Check-in อย่างสวนสาธารณะ, สนามเด็กเล่น เป็นต้น ซึ่งกลุ่มนี้คือกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการของแต่ละแบรนด์
แต่ก็จะมีข้อกำหนดจากทาง Foursquare ว่าผู้ลงโฆษณาจะไม่สามารถให้ลงโฆษณาในสถานที่ที่เป็นคู่แข่งกัน หรือพยายามที่จะนำเสนอรูปสินค้าคู่แข่งด้วยรูปต่างๆ เช่น หาก check-in ร้านอาหาร โฆษณาก็จะไม่มีการแสดงร้านอาหารคู่แข่งหรือการแสดงรูปอาหารของคู่แข่ง เป็นต้น
อีกเรื่องที่ถูกหยิบเป็นประเด็นโดยเฉพาะการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั่นคือเรื่องอายุ เพราะในต่างประเทศอย่างสหรัฐฯ นั้นก็มีกฎหมายในการโฆษณาเครื่องดื่มประเภทนี้เช่นกัน สำหรับกรณีของ Diageo ที่จะลงโฆษณาในสถานที่ที่จำกัดให้คนที่อายุเกิน 21 ปีเข้าไปได้อยู่แล้วซึ่งไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับตัวโฆษณาเองนั้นอาจจะแสดงในร้านอาหารทั่วไปได้ ซึ่งก็ไม่รับประกันว่าจะมีคนที่อายุต่ำกว่านั้นเข้ามา Check-in และเห็นโฆษณา …ประเด็นนี้ทาง Foursquare ก็คงต้องคิดหาวิธีแก้ปัญหาในเรื่องนี้กันต่อไป
หากไม่นับปัญหาข้างต้นแล้ว ถือเป็นช่องทางการหารายได้ของทาง Foursquare ที่เปิดกว้างมากๆ สำหรับผู้ที่จะลงโฆษณาที่ต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะ ซึ่งเชื่อมั่นอย่างมากว่าจะมีผลในทางที่ดีกับผลตอบรับกับผู้ลงโฆษณา
…คำถามที่ผมมีก็คือ แล้ว Facebook จะมาทำโฆษณารูปแบบนี้กับเขาด้วยไหมครับ?
ที่มา: AdAge, All About Foursquare