สำหรับเทคโนโลยีไร้สายอย่าง Near Field Communication หรือ NFC นั้น ปัจจุบันน่าจะมีหลายต่อหลายคนที่รู้จักเทคโนโลยีนี้เป็นอย่างดี ทาง thumbsupTH เองก็เคยนำเสนอตัวอย่างการนำไปใช้ของ NFC ที่หลากหลายกันไปในแต่ละธุรกิจ มาถึงวันนี้ในหลายๆ อุปกรณ์พกพาเช่นโทรศัพท์เคลื่อนที่หลายต่อหลายรุ่นก็มีการนำเอาเทคโนโลยีตัวนี้มาประยุกต์ใส่ไว้ภายในแล้ว
แล้วต่อจากนี้ NFC จะไปได้ไกลแค่ไหน ทั้งฝั่งอุปกรณ์ลูกข่าย และผู้ให้บริการพร้อมแค่ไหนที่นำเทคโนโลยีใหม่นี้มาใช้กันอย่างกว้างขวาง รวมถึงในเมืองไทยจะนำ NFC มาใช้อย่างไรกันบ้าง ไปติดตามกัน…
อย่างที่บอกไปข้างต้นนะครับ ปัจจุบันเรามีโอกาสได้เห็นผู้ประกอบโดยเฉพาะในต่างประเทศ จับเอา NFC มาใช้กับธุรกิจกันมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อจุดประสงค์หลายต่อหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความสะดวก การลดต้นทุนดำเนินการ การเพิ่มความขีดสามารถของอุปกรณ์หรือธุรกิจ รวมไปถึงการทำเพื่อเป็นภาพลักษณ์และมุมมองที่ดีต่อภายนอก
หลายคนอาจจะมีคำถามในใจเมื่อได้รู้จักเทคโนโลยีตัวนี้ว่า มันมีให้ใช้บริการในเมืองไทยหรือไม่? เท่าที่ทราบตอนนี้ยังแทบไม่มีผู้ประกอบการรายใดนำมาใช้แบบจริงจังกันเลย นั่นทำให้มีอีกสิ่งหนึ่งที่เกิดคำถามขึ้นในใจของผมเองว่า…มันจะถูกลืมไปในเร็วๆ นี้หรือไม่?
ถ้าผมจะยกตัวอย่างขึ้นมา ถึงเทคโนโลยีหลายตัวที่ดูมีอนาคต แต่เมื่อมาเมืองไทย กลับกลายเป็นแค่แฟชั่นที่ทำกันเพียงชั่วครู่ แล้วก็ไม่ได้รับการต่อยอดไป จนสุดท้ายแทบจะทำให้เทคโนโลยีดังกล่าว หายไปจากตลาดกันเลย ไม่ว่าจะเป็น QR Code, Augmented Reality (จริงๆ ตัวนี้มี @Thinkafe กำลังพัฒนาอยู่เท่าที่ทราบ) หรือแม้แต่ 3G Video Call ที่ชัดเจนมากับโทรศัพท์เคลื่อนที่หลายเครื่องที่มีกล้องด้านหน้าติดมา แต่พอมาถึงเมืองไทย มันแทบไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนัก นอกจากการนำมาถ่ายรูปตัวเอง
นั่นทำให้ผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่มีการบ้านเพิ่มมากขึ้น Samsung เองเคยนำโทรศัพท์ที่ในต่างประเทศจำหน่ายไปพร้อมๆ กับเทคโนโลยีอย่าง NFC แต่เมื่อเข้ามาถึงเมืองไทย NFC ถูกถอดออกไปด้วยเหตุผลทางการตลาด (เข้าใจว่ามองถึงตลาดในเมืองไทย ยังไม่มีคนใช้มากนัก)
Starbucks, Google, Visa หรือสถานที่สำคัญต่างๆ กระทั่งโรงแรมชั้นนำในต่างประเทศ คือผู้ประกอบการที่นำ NFC มาใช้อย่างจริงๆ การจ่ายเงินด้วยเครดิต การผ่านเข้าออกประตู หรือการส่งข้อมูลต่าง คือตัวอย่างประโยชน์ที่บริษัทเหล่านี้นำมาใช้ประโยชน์
ซึ่งฟังดูแล้วมันก็น่าจะเกิดในเมืองไทยได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ประเด็นสำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องของ “คน” เพราะเหตุผลอย่างความไม่เข้าใจในเทคโนโลยีอย่างแท้จริง หรือไม่กล้าเสี่ยงที่จะริเริ่มในเทคโนโลยีเหล่านี้ว่าจะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่
แต่ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวล้ำไปเพียงใด หรือจะใช้ง่ายแค่ไหนก็ตาม หากผู้ประกอบการไม่มีการนำมาใช้กันอย่างจริงจังและแพร่หลาย โอกาสที่ NFC จะเกิดในเมืองไทย คงเป็นได้แค่เพียงคอนเซปต์หรือโชว์เคสเท่านั้น แต่ thumbsupTH เชื่อเหลือเกินว่า เมื่อเทคโนโลยีถูกลง ก็น่าจะมีผู้ประกอบการเริ่มที่จะลงทุนกับเทคโนไร้สายตัวนี้มากยิ่งขึ้น เหมือนกับที่อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์เป็นที่นิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันนั่นเอง…