การ์ทเนอร์ (Gartner, Inc.) เผยยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนทั่วโลกไตรมาส 3 ปี 2563 จำนวนทั้งสิ้น 366 ล้านเครื่อง ลดลง 5.7% Xiaomi แซง Apple ขึ้นอันดับ 3 ของแบรนด์สมาร์ทโฟนทั่วโลก
โดยยอดขายสมาร์ทโฟนร่วงลงสองไตรมาสติดต่อกันถึง 20% แม้ว่าแบรนด์ต่างๆ จะเริ่มเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G หลายรุ่น รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ
แอนชูล กุปต้า นักวิเคราะห์อาวุโส ฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “ผู้บริโภคยังคงใช้จ่ายเงินอย่างรอบคอบ แม้บางประเทศจะมีการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์แล้ว โดยยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกเติบโตอยู่ในระดับปานกลางตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 เรื่อยมาจนถึงไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่ชะงักไปช่วงไตรมาสก่อนหน้านี้”
สำหรับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนห้าอันดับแรกพบว่า Samsung ครองอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 22% ส่วน Xiaomi แซงนำ Apple ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 เป็นครั้งแรก ด้วยยอดขาย 44.4 ล้านเครื่อง เทียบกับ Apple ที่มียอดขายราว 40.5 ล้านเครื่องในไตรมาสสามปีนี้
Samsung และ Xiaomi เติบโตเป็นบวกครั้งแรกในปี 2020
Samsung และ Xiaomi เป็นผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนเพียงสองรายจากห้าอันดับแรกที่มีการเติบโตเป็นบวกในไตรมาสสามของปีนี้ โดย Samsung ได้รับอานิสงส์มาจากการทำตลาดอย่างจริงจังในกลุ่มผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนระบบ Android และสามารถทำยอดขายถึง 80.8 ล้านเครื่อง
ขณะที่ Xiaomi โตขึ้นถึง 34.9% และครองส่วนแบ่งการตลาด 12.1% แซงหน้า Apple ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 ส่วนนึงเป็นผลมาจากการที่ Huawei กำลังเสียส่วนแบ่งในตลาดประเทศจีน
แอนเน็ต ซิมแมร์มันน์ รองประธานฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “Apple ทำยอดขายได้ 40.5 ล้านยูนิตในไตรมาสสามของปีนี้ โดยลดลงเพียง 0.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน การลดลงนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการที่ Apple จัดส่ง iPhone รุ่นใหม่ในปีนี้ล่าช้า จากเดิมปีก่อนที่สามารถเริ่มจัดส่งได้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายน ส่วนปีนี้ทั้งงานเปิดตัวและการจัดส่งกลับเริ่มล่าช้ากว่าปกติถึง 4 สัปดาห์”
ที่มา telecoms, displaydaily