หลัง Facebook ประกาศขายหุ้นบริษัทสู่สาธารณะเมื่อปี 2012 ที่ ในช่วงนั้นผู้คนต่างเกิดข้อกังขาเรื่องความสามารถของ Facebook ในการพัฒนาศักยภาพเพื่อเข้าสู่ยุค Mobile อย่างปัจจุบันเป็นอย่างมาก แต่หลังจากนั้น 2 ปีให้หลัง Facebook ก็พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าพวกเขาทำได้
โดยล่าสุดเมื่อไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา ทาง Facebook ได้เผยว่า 59% จากรายได้ในการเป็นสื่อโฆษณาของพวกเขามาจากโฆษณาแบบ Mobile Advertising ซึ่ง Gary Briggs, CMO แห่ง Facebook ได้กล่าวถึงความสำเร็จดังกล่าวของ Facebook ต่อหน้านักลงทุนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เมื่อช่วง 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมาก่อนงานสัมมนา ทาง Facebook พบว่ามี Active User ผู้ใช้งาน Facebook ผ่านอุปกรณ์พกพามากถึง 1 พันล้านคนแล้ว และทาง Facebook ก็เชื่อว่าพวกเขานั้นไม่สามารถเห็นตัวเลขตวามเติบโตในลักษณะเดียวกันกับการใช้งานบนคอมพิวเตอร์อย่างแน่นอน
และแน่นอนว่าการจะเข้าสู่ตลาด Mobile นั้นจทะดำเนินการต่างๆ โดยไม่มีแผนงานไม่ได้อย่างแน่นอนเข้าจึงได้กล่าวถึงกฏเหล็กของ Facebook ที่ช่วยให้โซเชียลเน็ตเวิร์กดังกล่าวประสบความสำเร็จในตลาด Mobile อย่างที่เป็นในปัจจุบัน
1. Mobile Team = ทุกทีมในองค์กร
แนวคิดดังกล่าวเกิดจากผู้บริหารระดับสูงซึ่งจะถ่ายทอดลงมาสู่พนักงานคนอื่นๆ ในองค์กร Mark Zuckerberg, CEO แห่ง Facebook จะหยุดการประชุมในทันทีเมื่อมีพนักงานกล่าวถึงการพัฒนาสิ่งต่างๆ บนคอมพิวเตอร์ก่อนการพัฒนาแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เพราะเขามองว่าในองค์กรของเขาไม่มีทีมใดที่ต้องรับผิดชอบเรื่อง Mobile โดยตรง แต่เขาต้องการให้ทุกคนในองค์กรนึกถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อการใช้งานบนสมาร์ทโฟนก่อนโดยทั่วกัน
2. การตั้งกลุ่มเป้าหมายให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้จริง
Gary Briggs มองว่าในข้อดังกล่าว Facebook นั้นอาจได้เปรียบซักหน่อย เนื่องจาก Facebook นั้นเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีความเกี่ยวเนื่องกับชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานค่อนข้างสูง แต่ไอเดียหลักก็คือการส่งเนื้อหา ที่เข้าถึงผู้ใช้งานคนนั้นๆ ให้ถูกคน และถูกเวลา
3. วัดผลจากกลุ่มผู้ใช้งานจริงเหล่านั้น
เป็นผลต่อเนื่องจากข้อ 2 นั่นคือ เราจะวัดผลจากกลุ่มที่ใช้งานจริงและเหมาะสม อย่าทำเฉพาะกลุ่มที่เราจะได้รับผลประโยชน์แต่เพียงเท่านั้น
4. ให้ความสำคัญกับคุณภาพ
เพราะอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตนั้นเป็นหนึ่งในช่องทางการสื่อสารที่ค่อนข้างใกล้ตัวผู้บริโภค เนื่องจากเป็นสิ่งที่พวกเขาจะนำติดตัวไปทุกที่ Gary Briggs มองว่า ไม่ว่านักการตลาดจะทำการสื่อสารกับผู้บริโภคในช่องทางใด เขาก็เชื่อว่าสมาร์ทโฟนนั้นก็ยังจะเป็นช่องทางที่คงความสำคัญ ฉะนั้นเขามองว่าการมีทีมที่คอยดูแลเรื่องคุณภาพของเนื้อหานั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญ
ที่มา : Ad Age