ที่ผ่านมา งานแสดงศิลปะมักไม่เรียกเสียง engagement จากชาวโซเชียลไทยเท่าไหร่นัก แต่กรณีของงานแสดงศิลปะ Bangkok Art Biannale 2018 ที่มีส่วนหนึ่งเป็นสีสันอย่าง “ตู้กดกาชาปองตุ๊กตาอับเฉา” ที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร นั้นถือว่าตรงกันข้าม เพราะเป็นมิติใหม่ที่เรียกยอดแชร์จากชาวโซเชียลได้อย่างเป็นรูปธรรม
เคมีของกาชาปองวัดอรุณนั้นไม่ได้โดนใจเฉพาะวัยรุ่น แต่ยังเข้าถึงกลุ่มนักสะสมที่ชื่นชมศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ส่วนผสมสำคัญยังอยู่ที่การกุศล เพราะรายได้ส่วนหนึ่งจะถูกมอบให้เป็นทุนการศึกษาแก่เด็กผู้ยากไร้ด้วย
ตุ๊กตาที่ไม่อับเฉาในสายตาคนยุคใหม่
ความครบของกาชาปองนี้ทำให้โลกโซเชียลไทยตื่นเต้นเมื่อเพจ “Pira Story” เริ่มโพสต์รูปภาพ ตู้กดกาชาปอง “ตุ๊กตาอับเฉา” ที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กทม. ถูกแสดงความเห็นและแชร์ส่งต่อเนื่องนับตั้งแต่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา สถิติล่าสุดคือเกิน 8 พันครั้งในช่วงเวลา 4 วัน ถือเป็นโพสต์สูงที่สุดที่เพจเคยทำมา
กระแสฮิตนี้ทำให้มีการนำเสนอเป็นข่าวบนสื่อหลายแห่ง ทำให้ชื่อทั้งงานแสดงศิลปะ Bangkok Art Biannale 2018 และชื่อศิลปิน “คมกฤษ เทพเทียน” ได้รับความสนใจมาก โดยนอกจากตู้กาชาปองที่เป็นแนวคิดจากวัดที่ญี่ปุ่น งานศิลปะอื่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัดอรุณก็ได้รับความสนใจเช่นกัน
สำหรับรายละเอียดของกาซาปอง รายงานระบุว่าคมกฤษเดินตามวัดในประเทศญี่ปุ่นที่มักจะมีกาชาปองจำลองเทพเจ้าจิ๋วเป็นของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยว จึงลงมือสร้างกาชาปองของวันอรุณฯขึ้นมาโดยมีชื่อผลงานว่า “อับเฉาไม่อับเฉา” ในตู้จะมีตุ๊กตาอับเฉาขนาดเล็ก 8 รูปแบบ ซึ่งจะถูกสุ่มออกมาเมื่อผู้ใช้หยอดเหรียญซื้อกาชาปอง
ตุ๊กตาอับเฉาทั้งหมดนี้ ถูกถอดแบบจากตุ๊กตาอับเฉาที่มีอยู่จริง ทั้งรูปแม่ทัพทหารจีน (General), ทหารใส่หมวก (Soldier), หนึ่งในแปดเซียน (Zhongli Quan), ลิงถือลูกท้อ (Monkey), ครุฑ (Garuda), เทพธิดา (Goddess), ยักษ์ (Giant) และจระเข้ (Crocodile) ทั้งหมดนี้ใช้วัสดุหลักคือไฟเบอร์กลาส ทำให้ตุ๊กตามีรายละเอียดชัดเจน
กลเม็ดที่ทำให้กาชาปองนี้มีมนต์ขลัง คือการขยักตุ๊กตารุ่นพิเศษหายากไว้รอบหลัง โดยเพจระบุว่าจากการสอบถามศิลปินเรื่อง “กาชาปองตัวแรร์” ศิลปินบอกว่าตัวแรร์จะมาเดือนมกราคม ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงที่สามารถเรียกเงินในกระเป๋านักท่องเที่ยวได้อีก
นอกจากนี้ ราคาซื้อกาชาปองครั้งละ 100 บาทอาจจะเพิ่มเป็นหลายร้อยบาทได้เพราะการสุ่ม ซึ่งเป็นเสน่ห์ของกาซาปองมาตลอด หลายคนต้องการสะสมตุ๊กตาจิ๋วเหล่านี้ให้ครบชุด จึงไม่แปลกใจที่เรามักจะเห็นคนกลุ่มนี้หยอดแล้วหยอดอีกจน (เกือบ) ล้มละลาย.