เรื่องของระบบรับชำระเงินออนไลน์ ส่วนใหญ่จะนึกถึงบริการของผู้ให้บริการชาวต่างชาติอย่าง Paypal, Wechatpay, Alipay กันใช่ไหมคะ แต่คราวนี้จะเป็นบริการใหม่ สัญชาติไทยแท้จาก 3 คนรุ่นใหม่ คือ สศิรา อภิรัชเหมภาส, พชร ลิ่วเฉลิมวงศ์ และชาลี ศรีเพียร ที่สร้างสรรค์ระบบรับชำระเงินออนไลน์ที่ชื่อว่า “GB Prime pay” ขึ้นมา
“จุดเริ่มต้นของบริการนี้ มาจากปัญหาการชำระเงินบนอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ส ยังไม่สามารถทำได้แบบครบวงจรและเชื่อถือได้”
คุณ สศิรา เล่าให้ฟังว่า การเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์สในไทยมีอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจออนไลน์นั้นต้องมี 3 ขา คือ ร้านค้าออนไลน์ อีเพย์เม้นท์และโลจิสติกส์ ซึ่งเมื่อ 2 ปีที่แล้วการแข่งขันในกลุ่มโลจิสติกส์บูมมาก นอกจากไปรษณีย์ไทยก็ยังมีทั้งเคอรี่ ลาล่ามูฟ ไลน์แมน เข้ามาเปิดบริการ แต่ก็เป็นผู้ให้บริการจากต่างประเทศทั้งสิ้น ส่วนด้านอีเพย์เม้นท์เอง นอกจากกลุ่มธนาคาร เพย์พาล และโอมิเสะแล้ว กลับยังไม่มีผู้ให้บริการเพย์เม้นท์ที่เป็นของไทยอย่างแท้จริง ทำให้เกิดแนวคิดที่ไม่อยากให้ต่างชาติเข้ามาฮุบวงจรเกือบทุกด้านของอีคอมเมิร์ซประเทศไทย
จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย ในส่วนของตัวเลขการชำระเงินผ่านอีเพย์เม้นท์บนระบบมือถือของเดือนธันวาคม 2559 เทียบกับ ธันวาคม 2560 ตัวเลขเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวจาก 584.71 พันล้านบาท ขึ้นมาเป็น 1,046.08 พันล้านบาท ชี้ให้เห็นว่าการเติบโตของธุรกิจออนไลน์และการเข้าสู่สังคมไร้เงินสดนั้น มีบทบาทอย่างมาก
บริษัทจดทะเบียนในชื่อ บริษัท โกลบอล ไพร์ม คอร์ปอร์เรชั่น ด้วยเงินทุน 10 ล้านบาท และได้รับมาตรฐานความปลอดภัย PCI-DSS 3.2 GB Prime Pay แล้ว ดังนั้น ร้านค้าทั้งรายใหญ่และรายย่อยที่ต้องการระบบรับชำระเงินออนไลน์จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยและเชื่อถือได้ รวมทั้งการมีพาร์ทเนอร์ชื่อดังอย่าง Acommerce, Swatdee Group Thailand, Make web easy, Blue House Travel, Ketshopweb และ Xselly จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่ยกเลิกบริการอย่างแน่นอน
จุดเด่นสำคัญอีกอย่างหนึ่งของบริการ GB PRIME PAY คือการช่วยให้ร้านค้ารายย่อยออนไลน์ซื้อขายผ่านบัตรเครดิตได้ โดยระบบ GB LINK จะรองรับทุกการชำระเงินออนไลน์ทั้งเครดิตการ์ด เดบิตการ์ด คิวอาร์เพย์เม้นท์ บิลเพย์เม้นท์ ถือว่าเป็นการยกระดับให้แก่ร้านค้าออนไลน์บนโซเชียลมีเดียต่างๆ
“หากร้านค้าออฟไลน์มีบริการคิวอาร์โค้ดของธนาคารต่างๆ แล้ว หากต้องการเพิ่มช่องทางจ่ายเงินบนระบบออนไลน์ก็เลือกบริการของเราเสริมเข้าไปได้ โดยรูปแบบการใช้งานจะเป็นการแจ้งเตือนเมื่อมีออเดอร์เข้ามา เมื่อต้องการให้ลูกค้าชำระเงินสามารถส่งเป็นลิ้งหรือคิวอาร์โค้ดแบบใช้ครั้งเดียวให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีได้ทันที ระบบจะมีการแจ้งแบบเรียลไทม์ ป้องกันปัญหาหลอกลวงได้ทั้งสองฝ่าย”
นอกจากนี้ การที่ระบบรองรับการชำระเงินมากกว่า 30 สกุลเงินทั่วโลก ช่วยในการขยายโอกาสซื้อขายไปยังต่างประเทศด้วย
“การซื้อสินค้าจากลูกค้าชาวต่างชาตินั้น ถ้าผ่านบัญชีเพย์พาล ต่างฝ่ายก็ต้องมีบัญชีเป็นของตนเองก่อน แต่ของ GB Prime Pay นั้น สามารถโอนและจ่ายได้โดยตัดผ่านบัตรเครดิตที่เป็นวีซ่าหรือมาสเตอร์การ์ดก็ได้”
โดยหลังจากลูกค้าได้รับของแล้ว ทางระบบจะตัดโอนเงินให้ร้านค้าภายใน 3-5-7 วันแล้วแต่หมวดหมู่ของสินค้า
หลังจากเปิดให้บริการไปประมาณ 5-6 เดือน มีร้านค้ารายย่อยที่สนใจและใช้งานประมาณ 500 รายแล้ว มียอดเงินสะพัดในระบบกว่า 10 ล้านบาท/วัน โดยบริษัทหวังจะมียอดเงินผ่านระบบเพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายในสิ้นปีนี้ เชื่อว่าจะเป็นไปได้ไม่ยากเพราะมีพาร์ทเนอร์ที่แข็งแรง รวมทั้งลูกค้าและร้านค้ามั่นใจได้ว่าจะไม่มีการขายกิจการแต่ตั้งเป้าอีก 6 ปีอยากจะเข้า IPO มากกว่า เพราะอยากให้รักษาธุรกิจนี้เป็นของคนไทยอย่างแท้จริง
ความน่าสนใจของบริการนี้ คือการตรวจสอบร้านค้าว่าทำธุรกิจจริงหรือทำเพื่อฟอกเงิน เคยมีประวัติอาชญากรหรือไม่ และเป็นบุคคลที่หลอกลวงหรือต้องสงสัยหรือเปล่า ปลายทางบัญชีที่รับเงินก็ต้องเป็นของบริษัทนั้นจริงๆ ไม่ใช่ตัวบุคคล เมื่อซื้อขายเสร็จแล้วก็มีการออกเอกสารบัญชีแจ้งยอดให้ร้านค้า ถือว่าเป็นการช่วยเหลือทั้งผู้ซื้อและผู้ขายให้มั่นใจได้ว่าต่างฝ่ายต่างจะไม่หลอกลวงหรือไม่หนีหายไปเสียก่อน