ถือเป็นการศึกษากลุ่มแรกที่สะท้อนแง่บวกของ GDPR หรือกฎระเบียบการคุ้มครองข้อมูลทั่วไปที่สหภาพยุโรปออกกฏคุมเข้มเรื่องการเก็บข้อมูลส่วนตัวของชาวออนไลน์ ล่าสุดการศึกษาพบว่าเว็บไซต์ของผู้เผยแพร่โฆษณาหลายรายในยุโรปมีการทำงานที่เร็วขึ้น และให้บริการแบบไม่มีโฆษณามากวนใจผู้ชมเหมือนเคย
ผลจาก GDPR คือเว็บไซต์ข่าวสัญชาติสหรัฐฯเวอร์ชันให้บริการแก่ผู้อ่านในยุโรปนั้นถูกปรับแต่งให้ลดความสามารถบางส่วนลงเพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลทั่วไปของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต โดย GDPR ย่อมาจาก General Data Protection Regulation ซึ่งเป็นกฎหมายความเป็นส่วนตัวของสหภาพยุโรปฉบับใหม่ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา
การสำรวจพบว่า การลดความสามารถลงทำให้เว็บไซต์กลุ่มนี้ทำงานได้เร็วขึ้น เมื่อโหลดเร็วจึงมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นด้วย
การวิเคราะห์นี้ดำเนินการโดย Catchpoint ซึ่งยกตัวอย่างเว็บไซต์ USA Today เวอร์ชันสำหรับผู้อ่านในสหรัฐอเมริกานั้นใช้เวลาโหลดเว็บเพจเฉลี่ย 9.86 วินาทีแต่หลังจากการประกาศใช้ GDPR พบว่าเว็บไซต์เวอร์ชันสำหรับผู้อ่านในอังกฤษนั้นใช้เวลาโหลด 0.42 วินาทีเท่านั้น
เว็บเพจยังใช้เวลาโหลด 0.75 วินาทีในฝรั่งเศส และ 0.51 ในเยอรมนี
เวลาในการโหลดหน้าเว็บที่เร็วขึ้นนั้นมาจากการยกเลิกฟีเจอร์ของบริษัท third-party ภายนอก เช่น เครื่องแม่ขายสำหรับยิงโฆษณาออนไลน์ นานาบริการของ Google และโปรแกรมเสริมหรือปลั๊กอินอื่นบนโซเชียลมีเดีย
นอกจาก USA Today เว็บไซต์อย่าง The Verge และ The Atlantic เวอร์ชันยุโรปยังไม่มีการแสดงโฆษณา ขณะที่เว็บไซต์ของสื่อใหญ่อย่าง Slate, New York Magazine และ Reuters ใช้ระบบ Google DoubleClick เพื่อแสดงโฆษณา
ที่มา: : MarketingDive