เป็นข่าวใหญ่ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมาสำหรับ “แกรมมี่” โดยเฉพาะประเด็นการตบเท้าลาออกของผู้บริหารซึ่งเป็นศิลปินรุ่นใหญ่อย่าง นิติพงษ์ ห่อนาค, อัสนี-วสันต์ โชติกุล ท่่ามกลางกระแสการปรับโครงสร้างองค์กรและโครงสร้างเงินเดือนครั้งใหญ่ เกือบทั้งหมดนี้คือการปรับแกรมมี่จากอนาล็อกสู่ดิจิตอล? จะว่าไปเส้นทางนี้อาจเป็นทางที่แกรมมี่ไม่ได้เลือกเดิน แต่จำต้องเดินไปเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่การซื้อซีดี เปลี่ยนไปเป็นการเสพย์เนื้อหาจากอินเทอร์เน็ตบนโลกออนไลน์โดยไม่มีราคาค่างวด ทำให้ค่ายเพลงต้องหันมาผลักดันการให้บริการผ่านการดาวน์โหลดเพลงและเนื้อหาผ่านโทรศัพท์มือถือ แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่สามารถ “ทดแทนอาการบาดเจ็บ” ที่จากเคยมีรายได้มหาศาลเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ แต่ตอนนี้ต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด
หนึ่งในรูปแบบการดำเนินธุรกิจดิจิตอลก็คือการสร้างชุมชนออนไลน์ของคนรักเพลงกับเว็บไซต์ Gmember.com ในเรื่องนี้ thumbsup ได้สอบถามไปยังแหล่งข่าวระดับสูงในแกรมมี่ฯ ซึ่งไม่ขอระบุนามเพื่อสอบถามถึงที่มาที่ไปและความเคลื่อนไหวล่าสุดพบว่า ทางบริษัทได้เล็งเห็นว่าด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคบนอินเทอร์เน็ตมักจะมองว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตเป็นของฟรี อีกทั้งเจอเทคโนโลยีแบบบิตทอร์เรนต์ ที่ทำให้คนดาวน์โหลดเพลงและมิวสิควิดีโอได้ฟรีแบบผิดกฏหมาย ดังนั้นทางออกของอุตสาหกรรมที่จะต้องเดินไปในภาพรวมก็คือการขายเนื้อหาให้ได้ โดยผ่านการเก็บเงินผ่านค่ายโทรศัพท์มือถือ หรือที่เรียกกันว่า “Operator Billing”
แหล่งข่าวรายเดิมได้ระบุต่อไปว่าที่ผ่านมาทางแกรมมี่ก็ได้ทดลองหลายแบบ ด้วยรูปแบบธุรกิจที่แตกต่างกันไป อย่างเมืองนอกมีบริการ Music stream อย่าง ‘Spotify‘ ก็ได้ลองทำในเมืองไทยแต่ว่าไม่เหมาะกับเมืองไทย เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคออนไลน์ไทยมองว่าทุกอย่างบนอินเทอร์เน็ตคือของฟรี ทางแกรมมี่ (และหรือแม้แต่ค่ายคู่แข่งก็พยายามทำเช่นกัน) ได้พยายามหาเงินมาแล้วแต่ด้วยปัจจัยหลายอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้รูปแบบการเก็บเงินแบบเดิมไม่เกิด ทางแกรมมี่จึงคิดว่าทำอย่างไรที่จะ “ได้ใจ” ผู้บริโภคด้วยการสร้าง Community ของคนฟังเพลง จึงเปิดให้ทุกคนฟังเพลงฟรี อย่างน้อยทางแกรมมี่ก็ยังสามารถดึงฐานแฟนเพลงของศิลปินไว้ในมือได้ จึงทำให้เกิด Gmember.com ขึ้นมา ในขณะเดียวกันก็เปิดเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นมานั่นคือ Shopping8000.com ซึ่งทำหน้าที่ส่งซีดีและสินค้าอื่นๆ ของแกรมมี่ให้ผู้บริโภคถึงบ้าน ทำ Music Sim ร่วมกับ AIS และการดาวน์โหลดเพลงผ่าน IVR ที่เบอร์โทรศัพท์ *123 ที่ทำร่วมกับทุกค่ายมือถือ
ถ้ามองเจาะมาตรงเฉพาะที่ Gmember.com คุณจะพบว่าแกรมมี่ได้นำเพลงที่มีอยู่เกือบทั้งหมดมาให้แฟนเพลงฟังกันได้ฟรีๆ อย่างเพลง “Too much, So Much, Very Much” ของเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ที่มีแฟนเพลงเข้ามากดฟังแล้วกว่า 369,000 ครั้ง และถ้าคุณอยากจะฟังเพลงอื่นๆ ในค่าย Gmember ก็ได้สร้างระบบ Playlist เพื่อให้คุณได้เข้ามาสร้างและจัดเพลงที่คุณชื่นชอบมาไว้ในที่เดียวกัน คุณสามารถแชร์ playlist ของคุณให้กับเพื่อนๆ เพื่อร่วมแชร์ประสบการณ์ในการฟังเพลง พูดคุย และแนะนำเพลงใหม่ๆ ให้กับเพื่อนๆ ได้ตลอดเวลา และยังสามารถสร้าง playlist ได้ถึง 5 playlist ด้วยกันและ 1 playlist มีได้ถึง 10 เพลง พร้อมทั้ง Music Library ที่เปิดให้คุณเข้าไปค้นฟังเพลงของแกรมมี่ทั้งหมดนับหมื่นเพลง กับกิจกรรมพิเศษของศิลปินแกรมมี่ที่แฟนเพลงชื่นชอบ อาทิ การดึงเอา ศิลปิน Calories Blah Blah มาทำเซอร์ไพร์สลูกค้าที่ดาวน์โหลดเพลง รวมทั้งเบื้องหลังการทำงานเพลงของศิลปินที่หาดูที่ไหนไม่ได้? ซิงเกิ้ลใหม่ก็จะมาเปิดตัวใน Gmember.com เช่นกัน
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งที่แกรมมี่ตั้งใจจะมุ่งไป เพราะยังมีเรื่องราวอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง MVNO ที่ต้องเดิมพันกันนับพันล้านบาท Gmember.com ในฐานะ “เครื่องมือเอาใจแฟนเพลง” จึงต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตอนนี้เพื่อหวังต่อยอดในวันที่เทคโนโลยีนั้นพร้อม รวมทั้งการสนับสนุนจากภาครัฐที่ดูแลเรื่องเทคโนโลยีนี้ด้วย แต่ตอนนี้ Gmember.com สังคมของคนรักเพลงของ ‘แกรมมี่’ ยังต้องรอการพิสูจน์ความสำเร็จ ซึ่งส่วนหนึ่งของความสำเร็จนั้นก็คือผู้บริโภคที่พร้อมจะให้การสนับสนุนศิลปินที่จะสร้างผลงานออกมาหรือไม่