thumbsup ได้นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับบริการ Crowd Funding หรือการระดมเงินทุนบนโลกออนไลน์จากมหาชนที่สนใจในไอเดียดีๆ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจาก Kickstarter ที่โด่งดังแล้ว วันนี้เราจะมาแนะนำอีกราย นั่นก็คือ GoFundMe ที่เน้นไปที่การช่วยระดมเงินทุนสำหรับความต้องการส่วนตัว
GoFundMe ถูกก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2008 และในปัจจุบันก็เป็นบริการ Crowd Funding อันดับ 3 ของโลก ซึ่งจุดประสงค์ของ GoFundMe ดูจะแตกต่างจากรายอื่นๆ พอสมควร เพราะในขณะที่รายใหญ่อย่าง Kickstarter มุ่งเน้นไปที่การระดมเงินทุนให้กับไอเดียดีๆ เกี่ยวกับภาพยนตร์และดนตรีรวมถึงธุรกิจ startup ใหม่ๆ GoFundMe กลับเน้นไปที่กิจกรรมส่วนตัวมากกว่า ตัวอย่างเช่น การระดมเงินจากคนใกล้ตัวเพื่อจัดการกับการไปเที่ยวต่างประเทศ หรือการระดมเงินเพื่อขอเงินไปรักษาตัวหลังจากประสบอุบัติเหตุ เป็นต้น ซึ่งผู้ขอระดมเงินมีสิทธิ์ในการเก็บเงินทุนที่ได้ทั้งหมดไว้โดยไม่ต้องห่วงข้อจำกัดเรื่องเวลาหรือต้องทำตามเงื่อนไขขั้นต่ำต่างๆ
ในขณะนี้ แคมเปญที่เน้นการสร้างกองทุนทางการแพทย์ถือเป็นสัดส่วนประมาณ 17% ของกิจกรรมทั้งหมดบน GoFundMe ในขณะที่กองทุนค่าเล่าเรียนคิดเป็น 11% และกองทุนสำหรับการท่องเที่ยวคิดเป็น 10% ของเงินทุนทั้งหมด ซึ่งจนถึงปัจจุบัน แม้ GoFundMe จะถือว่ายังมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับบริการ Crowd Funding อื่นๆ แต่บริการดังกล่าวก็มีการเติบโตอยู่ที่ 20% ต่อเดือนตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วเป็นต้นมา
สำหรับค่าบริการในการใช้งานนั้น GoFundMe จะคิดส่วนแบ่ง 5% จากการจัดโครงการต่างๆ และเฉพาะในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา GoFundMe สามารถระดมเงินไปได้ทั้งสิ้น 2 ล้านเหรียญหรือราว 60 ล้านบาท และคาดหมายว่าจะสามารถระดมเงินได้ถึง 37 ล้านเหรียญ หรือกว่า 1,000 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2012 นี้
ผู้บริหารของ GoFundMe ได้แสดงความเห็นว่าปัจจัยทีทำให้ Crowd Funding เติบโตอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมาก็คือกระบวนการจ่ายเงินที่สะดวกและแข็งแรงขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานบัตรเครดิตได้ รวมถึงการใช้งานสังคมออนไลน์อย่าง Facebook ที่เชื่อมโยงผู้ใช้อื่นๆ เข้าหากันได้ด้วย
ในปัจจุบัน GoFundMe มีพนักงานทั้งสิ้นเพียง 4 คนและที่ผ่านมาไม่เคยได้รับเงินทุนจากนักลงทุนใดเลย เปิดให้บริการในสหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ออสเตรเลีย, สหราชอาณาจักร และประเทศในกลุ่ม EU ที่ใช้เงินสกุล EU
เห็นอย่างนี้แล้วชาว thumbsuper น่าจะลองเข้าไปใช้บริการดูนะครับ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้เงินทุนสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ จากไอเดียดีๆ ก็เป็นได้
ที่มา:?TechCrunch