นับเป็นอีกปีที่ Google บริษัทผู้ให้บริการค้นหาข้อมูลอันดับหนึ่งของโลกยังรักษาความเป็นเจ้าตลาดไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แม้จะมีความพยายามจากอีกฟากฝั่งที่จะเข้ามาแย่งสัดส่วนไป แต่ก็ยังไม่มีผลอย่างชัดเจนนัก
ComScore ออกมาเปิดเผยว่าตัวเลขส่วนแบ่งของตลาดการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตของ Google ยักษ์ใหญ่ที่เป็นที่นิยมมาอย่างต่อเนื่องยังคงรักษาความเป็นที่นิยมของตัวเองไว้ได้อีกหนึ่งปี โดยล่าสุดเมื่อสิ้นปี 2010 ที่ผ่านมา Google มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 66.6% ซึ่งขึ้นมาเล็กน้อยจากเดือนพฤศจิกายนที่ 66.2% ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Bing จาก Microsoft มีสัดส่วนอยู่ที่ 12% และ Yahoo! ลดลงมาอยู่ที่ 16% ซึ่งเมื่อรวมยอดของ Bing และ Yahoo! เข้าด้วยกันแล้วก็ยังได้เพียง 28% หรือไม่ถึงครึ่งหนึ่งของ Google
ที่มา eweek , BusinessInsider
ความเห็นผู้เขียน การเปลี่ยนแปลงในตลาด search engine มีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำ Bing สู่ตลาดที่ Microsoft หวังว่าจะกลายมาเป็นคู่ต่อกรที่สูสีของ Google หรือการถอยออกจากการแข่งขันในตลาดการค้นหาของ Yahoo! และยกพื้นที่ให้กับ Bing แทน แต่แล้วความแข็งแกร่งของ Google ก็ยังมากเกินกว่าที่ใครจะมาล้มได้ภายในชั่วข้ามคืน
การมาของ Google Realtime, Google Instant ถือเป็นความพยายามที่จะแนะนำบริการใหม่ๆออกสู่ตลาดเพื่อทำให้ Google ยังครองความเป็นผู้นำทั้งในด้านส่วนแบ่งตลาดและความเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรม นอกจากนั้น การที่ Google ผลักดันให้บริการ Google Instant ให้เข้าไปถึงระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์มือถืออย่าง Android ก็เป็นความพยายามที่จะขยายของเขตของตนเองออกจากคอมพิวเตอร์ PC และโน้ตบุ๊คเพื่อทำให้ช่องทางการเข้าถึงข้อมูลหลากหลายและอยู่ติดตัวผู้บริโภคตลอดเวลาด้วย
ความพยายามที่จะแย่งส่วนแบ่งตลาดการค้นหา นอกจากเพื่อความแข่งแกร่งของฐานลูกค้า, ภาพลักษณ์ และรายได้จากการโฆษณาของแต่ละบริษัทแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าคือตัวข้อมูลที่เกิดจากการค้นหานั่นเอง ซึ่งการค้นหาข้อมูลทำให้ผู้ให้บริการอย่าง Google, Bing สามารถติดตามพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ และข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยที่สำคัญสำหรับยักษ์ใหญ่ที่มีบทบาทของการพัฒนาซอฟท์แวร์และบริการอื่นๆให้ตอบสนองผู้บริโภคให้ดีขึ้นได้อีกด้วย
หากลองมาดูรายชื่อ 5 ประเทศที่ Google ไม่ได้เป็นที่หนึ่ง จะพบว่าส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย ได้แก่ รัสเซียที่มีเจ้าตลาดคือ Yendex, Baidu ในจีน, Seznam ใน Czech Republic, Naver ในเกาหลีใต้ และ Yahoo! Japan ในญี่ปุ่น ซึ่งตลาดเหล่านี้ต่างมีเอกลักษณ์ของตนเองและบริการค้นหาของแต่ละประเทศเน้นที่การค้นหาข้อมูลภาษาของตัวเอง ซึ่ง Google ยังทำได้ไม่ดีเท่าใดนักในประเทศเหล่านี้แม้จะมีบริการ Google Translate ออกมารองรับการแปลภาษาแล้วก็ตาม
ส่วนในประเทศไทยเราเอง ส่วนแบ่งตลาดของ Google ยังอยู่เหนือระดับ 90% ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงมากเมื่อเทียบกับหลายๆตลาดในโลกและยังไม่มีแนวโน้มที่จะถูกผู้ให้บริการใดมาเขย่าตำแหน่งได้ง่ายๆ และแม้จะเคยมีข่าวความตั้งใจที่บางบริษัทจะเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย เช่น Naver ของเกาหลี แต่ความเป็นจริงก็คือจุดแข็งของ Naver คือการรองรับการค้นหาภาษาเกาหลี การเข้ามาทำตลาดในไทยไม่ได้ทำให้ Naver มีความได้เปรียบใดๆเหนือ Google เลยและนั่นจึงทำให้ข่าวลือดังกล่าวเกิดขึ้นและเลือนหายไปภายในเวลาไม่นานนัก คงต้องคอยติดตามกันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้นบ้างเมื่อผ่านปี 2011 ไปแล้วและ Google จะปล่อยบริการใหม่ๆอะไรออกมาอีกบ้างเพื่อรักษาความเป็นผู้นำของตนให้อยู่เหนือคู่แข่งอย่างยั่งยืน