ใครที่ทำงานในวงการสื่อสิ่งพิมพ์ ควรจะนั่งลงแล้วอ่านข่าวนี้เลย เพราะมีการรายงานว่าในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2012 ยักษ์ใหญ่บริการเสิร์ชเอนจิ้นอย่าง Google สามารถสร้างรายได้จากการโฆษณาได้มากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์ทุกแขนงในสหรัฐฯรวมกัน ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่ผิดคาดจากที่หลายคนเคยฟันธงไว้ก่อนหน้านี้
ตัวเลขประวัติศาสตร์นี้ถูกสะท้อนในรูปแผนภูมิซึ่งจัดทำโดยบริษัท Statistica จากแผนภาพพบว่า Google สามารถทำรายได้จากธุรกิจโฆษณาราว 1.09 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา ขณะที่สื่อสิ่งพิมพ์ทั้งหนังสือพิมพ์และนิตยสารอเมริกันทำได้เพียง 1.05 หมื่นล้านเหรียญสหรัีฐฯ
รายงานวิเคราะห์ว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้รายได้ธุรกิจโฆษณาของ Google พุ่งกระฉูดคือการดึงเม็ดเงินจากตลาดโลกได้อย่างลื่นไหล ผลคือรายได้ของ Google ไม่ได้จำกัดเฉพาะตลาดในสหรัฐฯ ซึ่งจุดนี้อาจทำให้ผลการสำรวจนี้ไม่เป็นธรรมกับสิ่งพิมพ์สหรัฐฯ และำให้ผลการสำรวจของ Statistica ถูกมองว่าสามารถสะท้อนภาพความเปลี่ยนแปลงในตลาดโฆษณาได้เพียงผิวเผินเท่านั้น นอกจากเพราะ Google สามารถหารายได้ในตลาดที่ใหญ่กว่าสื่อสิ่งพิมพ์ แต่การสำรวจของ Statistica ยังไม่รวมรายได้ของสิ่งพิมพ์ที่มีรายได้จากการโฆษณาบนเว็บไซต์ด้วย ทั้งหมดทำให้การสรุปความของ Statistica ดูคลาดเคลื่อนไปเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนจากสถิตินี้คือตลาดโฆษณาออนไลน์ที่ขยายตัวเกินหน้าสิ่งพิมพ์ โดยเฉพาะ Google ที่สามารถทำรายได้มากขึ้นในขณะที่รายได้จากการพิมพ์โฆษณาน้อยลงทุกที จุดนี้ Statistica เชื่อว่า Google จะเป็นผู้เล่นรายใหญ่แทนอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ในด้านการโฆษณา ซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นเร็วมาก เพราะ Google นั้นมีอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น แต่สิ่งพิมพ์นั้นมีอายุนานนับศตวรรษ
ที่มา: Mashable, แผนภูมิรูปภาพจาก statista