เนื่องพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปจากเดิม การโฆษณาบน Google สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์นั้นมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมลดลง เนื่องจากผู้ใช้งานส่วนมากหันไปนิยมใช้งานบริการของ Google บนสมาร์ทโฟนกันมากขึ้น
จากรายงานของ eMarketer การโฆษณาบนสมาร์ทโฟนประเภท Search Ads นั้นเติบโตขึ้นถึง 120.8% เมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา และงบประมาณการโฆษณาบนสมาร์ทโฟนโดยรวมนั้นโตขึ้นถึง 122.0% เมื่อปีที่ผ่านมาเช่นกัน ในขณะที่ยอดการโฆษณาสำหรับคอมพิวเตอร์โดยรวมนั้นเติบโตขึ้นเพียง 2.3% เมื่อปีก่อน
นอกจากนี้ eMarketer ยังคาดว่ายอดการโฆษณาแบบ Search Ads บนคอมพิวเตอร์นั้นอาจตกลงมากถึง 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (4 หมื่น 5 พันล้านบาท) โดยลดลงจากปี 2013 มากถึง 9.4% ในขณะที่การโฆษณาบนสมาร์ทโฟนนั้นมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นถึง 82.3% แบบปีต่อปี โดยคาดว่ายอดการโฆษณาแบบ Search Ads บนสมาร์ทโฟนนั้นจะมีมากถึงในปีนี้จะมียอดอยู่ที่ 9.02 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราวๆ 2 แสน 9 หมื่นล้านบาท) ในขณะที่ยอดการโฆษณาแบบ Search Ads บนคอมพิวเตอร์นั้นจะมียอดอยู่ที่ 13.57 พันล้านบาท และยอดการโฆษณาสำหรับคอมพิวเตอร์โดยรวมนั้นจะลดลงถึง 2.4% ในปี 2014 นี้
Google นั้นเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนจากกรณีที่นักการตลาดหันไปจัดสรรงบประมาณเพื่อการโฆษณาบนสมาร์ทโฟนแทนคอมพิวเตอร์มากขึ้น โดยเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา 76.4% จากรายได้ของการโฆษณาโดย Google นั้นมาจากการโฆษณาบนคอมพิวเตอร์ โดยในปีนี้คาดว่ายอดการโฆษณาดังกล่าวจะตกลงเหลือเพียง 66.3% เนื่องจากยอดการโฆษณาแบบ Search Ads บนคอมพิวเตอร์นั้นมียอดการโฆษณาที่ตกลงมากถึง 770 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (2 หมื่น 4 พันล้านบาท) แบบปีต่อปี
ในขณะเดียวกันยอดการโฆษณาบน Google สำหรับสมาร์ทโฟนนั้นจะเพิ่มขึ้นถึง 1.76 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (5 หมื่น 7 พันล้านบาท) โดยการโฆษณาผ่านสมาร์ทโฟนนั้นจะกลายเป็น 1 ใน 3 ของรายได้จากการโฆษณาของ Google ทั้งหมด ทั้งนี้ต้องยกเครดิตให้บริการ Enhanced Campaign ของ Google บริการที่ทำให้โฆษณาสามารถเข้าถึงผู้ใช้คนนั้นๆ ได้ถูกที่ถูกเวลาแม้จะใช้อุปกรณ์ที่ต่างไป และ Product Listing Ads (PLAs) บริการการโฆษณาที่แสดงข้อมูลสินค้าอย่างเช่น ราคาและภาพ
แต่หากพูดถึงรายได้โดยรวมของของ Google แล้วยอดการโฆษณาบนสมาร์ทโฟนนั้นถือว่ามีการเติบโตเป็นอย่างมาก เพิ่มจาก 19.4% เมื่อปี 2013 ที่ผ่านมาเป็น 26.7% ของรายได้รวมของ Google ในปีนี้ ในขณะที่รายได้จากการโฆษณาของ Google จะตกลงจาก 63% จากรายได้รวมของ Google ในปี 2013 อย่างแน่นอนในปีนี้ หลังตกจาก 72.7% เมื่อปี 2012
ทั้งนี้ทั้งนั้นการจัดสรรงบประมาณของนักการตลาดที่เปลี่ยนไปนั้น เกิดจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ที่หันไปใช้เวลาอยู่กับสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตกันมากขึ้น โดยผู้บริโภคปัจจุบันมีแนวโน้มจะใช้เวลาไปกับกิจกรรมแบบ non-voice บนสมาร์ทโฟนมากถึง 19.4% ต่อวัน (สำหรับผู้ใหญ่ในสหรัฐเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา) โดยนักการตลาดได้จัดสรรงบประมาณเพื่อทำการตลาดบนสมาร์ทโฟนเพียง 5.7% เท่านั้น แสดงให้เห็นว่าในการทำการตลาดบนสมาร์ทโฟนนั้นยังพื้นที่ให้นักการตลาดอีกมาก
ที่มา : eMarketer
ภาพ : Google