ภาพประกอบจาก CNN
เราได้เห็นนวัตกรรมแห่งอนาคตกันอยู่อย่างต่อเนื่องจาก Google ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ไม่มีคนขับ บอลลูนปล่อยสัญญาณ WiFi หรือแม้แต่แว่นตาล้ำยุคอย่าง Google Glass วันนี้ Google มาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่อีกแล้ว คราวนี้เป็น tattoo หรือลายสัก ที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิคส์ที่จะมาจับเสียงของเราให้ชัดกว่าที่เคยมีมา
Tattoo ล้ำยุคที่ว่านี้จะใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ร่วมกับแถบลายสักที่ประกอบไปด้วยแบตเตอรี่, ไมโครโฟนไร้สายและตัวรับส่งสัญญาณไร้สาย เพื่อจับเสียงและส่งไปยังอุปกรณ์ประเภทสมาร์ทโฟนที่ผู้ใช้ต้องพกติดตัวอยู่แล้ว โดยสิทธิบัตรที่ Google ได้จดไว้นั้นได้ระบุเพียงว่าลายสักนี้เป็นแผ่นบางๆ ที่ยืดหยุ่น ซึ่งจริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ทีมงาน Google และ Motorola ได้เคยเปิดตัวคร่าวๆ ไปก่อนครั้งหนึ่งโดยในครั้งนั้นมาในลักษณะของสติ๊กเกอร์ที่อยู่ได้เพียง 1 สัปดาห์
สำหรับลายสักล้ำยุคนี้ คาดกันว่าน่าจะถูกใช้ในสถานการณ์ที่เสียงรอบข้างค่อนข้างดัง ซึ่งในปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่รบกวนการโทรศัพท์ของคนทั่วไป โดยเทคโนโลยีใหม่นี้น่าจะช่วยได้อย่างมากเนื่องจากลายสักนี้จะรับเสียงเฉพาะที่มาจากลำคอเท่านั้น โดยมันสามารถที่จะตัดเสียงรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความเห็นผู้แปล
การที่ผู้ใช้มีไมโครโฟนที่ต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา (ผ่านการเชื่อมกับโทรศัพท์มือถือ) น่าจะเป็นหนึ่งในหนทางที่จะช่วยผลักดันหลายๆ บริการของ Google ให้เกิดได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างง่ายๆ เช่น บริการ Google Now ที่ปัจจุบันสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ผ่านสมาร์ทโฟนตระกูล Android โดยเฉพาะในกลุ่ม Nexus ของ Google เอง ที่รุ่นล่าสุดอย่าง Nexus 5 นั้นโทรศัพท์รอรับคำสั่งอยู่ตลอดเวลาที่เปิดเครื่องโดยไม่ต้องมีการกดปุ่มใดๆ การใช้ลายสักอัจฉริยะนี้น่าจะช่วยให้บริการ digital assistant นี้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้รวดเร็วขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีข่าวลือหลุดออกมาว่าอุปกรณ์ใหม่นี้สามารถตรวจจับการโกหกได้ด้วย แต่ต้องมาดูกันว่ามันจะอัจฉริยะได้ถึงขนาดนั้นหรือไม่
ผมว่าลายสักนี้เป็นอีกกุญแจเล็กๆ นี่จะต้องนำไปใช้ร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังจะตามมา ซึ่งคาดว่า Google เองคงมีแผนคร่าวๆ อยู่แล้ว ไม่แน่นะครับ เราอาจจะเห็นการใช้ไมโครโฟนประเภทนี้ทำหน้าที่อื่นๆ อีก เช่น เป็นกุญแจอิเล็กทรอนิคส์สำหรับรถยนต์ที่สามารถสั่งให้เปิดปิดรถ สั่งเครื่องเสียงให้ทำงาน ฯลฯ หรือแม้แต่ใช้เป็น universal key ที่ใช้เป็นตัวระบุตัวตนผู้ใช้สำหรับทุกๆ อุปกรณ์ที่ Google จะผลิตขึ้นมาในอนาคตก็ได้ น่าจับตามองนะครับ
ที่มา: Huffington Post