อย่างที่รู้กันว่าเสิร์ช เอนจิ้นย่อมพ่ายแพ้แก่ ด้านมืดอย่างสื่อลามกที่มักใช้สื่อออนไลน์เป็นช่องทาง แต่จากนี้สื่อลามกจะไม่สามารถเผยแพร่ได้อย่างกว้างขวางอีกต่อไปเมื่อ Google และ Microsoft ร่วมมือกันปฏิวัติเสิร์ช เอนจิ้นของตัวเองเพื่อไม่ให้มีลิงก์ที่นำไปยังสื่อลามกอนาจารที่กระทำต่อเยาวชน
หลังนายเดวิด แคเมอรอน (David Cameron) นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรได้ออกคำสั่งให้ Google และเสิร์ช เอนจิ้นรายใหญ่อื่นๆออกมาตรการจัดการภาพลามกอนาจารที่กระทำต่อเยาวชนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดทาง Google ได้ออกมาเผยว่าทางบริษัทนั้นได้ระดมกำลังคนถึง 200 คนในการสร้างเทคโนโลยีใหม่ที่จะเข้ามาบล็อคภาพและผลลัพธ์อื่นๆซึ่งนำไปสู่ภาพอนาจารของเยาวชน
จากรายงานของ Daily Mail นาย เอริก เอเมอร์สัน ชมิด (Eric Schmidt) ประธาน Google ได้เผยว่าทาง Google ได้ปรับปรุงอัลกอริทึมของพวกเขาอย่างละเอียดกว่า 100,000 รายการที่มีมีความเชื่อมโยงกับสื่ออนาจารเยาวชน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะเกิดขึ้นพร้อมกันทั้งหมด 150 ภาษา ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะส่งผลกระทบทั้งโลกอย่างแท้จริง
นายเอริก เอเมอร์สัน ชมิด ยังเผยถึงมุมมองของเขาอีกว่า การบล็อดภาพเยาวชนนั้นไม่ใช่ว่าจะสามารถกระทำได้ในทันที เพราะอัลกอริทึมนั้นไม่มีความสามารถในการแยกแยะระหว่างภาพอนาจารของเยาวชนกับภาพเด็กน้อยอาบน้ำในอ่าง ฉะนั้นทาง Google จึงได้ใช้คนเป็นผู้ตรวจสอบภาพก่อนบันทึก digital finger print จากนั้นเมื่อภาพเหล่านั้นปรากฏบนระบบอีกคอมพิวเตอร์จะสามารถแยกแยะได้เอง ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวนั้นต้องขอบคุณและให้เครดิตแก่ Micorsoft ที่สร้างและแบ่งปัน นอกจากนี้ทางวิศกรฝั่ง Youtube ยังพัฒนาการสกรีนวิดีโอที่ผิดกฏหมายอีกด้วย คือ เมื่อวิดีโออนาจารถูกอัพโหลดขึ้น ทางระบบจะติดแท็กไว้ เมื่อวิดีโอเดิมถูกอัพโหลดขึ้นอีกในภายหน้า ทางระบบจะสามารถลบออกได้ทันที ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของการทดลอง คาดว่าจะใช้งานจริงช่วงธันวาคมที่จะถึงนี้
ขณะเดียวกันทาง Daily Mail ยังรายงานถึง ความคืบหน้าของ Micorsoft ผู้ดูแลเสิร์ช เอนจิ้นอย่าง Bing และให้การสนับสนุน Yahoo ว่าทาง Microsoft เองก็มีแผนจะลงมือป้องกันและต่อต้านภาพอนาจารที่กระต่อเยาวชนในเร็วๆนี้เช่นกัน
อนึ่งนอกจากการพัฒนาอัลกอริทึมในองค์กรของ Google แล้ว พวกเขายังใส่โฆษณารณรงค์ขององค์กรการกุศลอื่นๆเพื่อเตือนสติผู้ใช้ว่าการละเมิดทางเพศเยาวชนนั้นเป็นสิ่งที่ผิดและพวกเขาสามารถหาความช่วยเหลือได้ที่มใดบ้าง บนผลการค้นหาที่สุ่มเสี่ยงกว่า 13,000 รายการ
ที่มา TNW