จะทำอย่างไรถ้าอยากให้มีผลการศึกษาในเชิงวิชาการรองรับความดีความชอบของโปรเจกต์ที่เรากำลังทำ คำตอบคือ จ้างนักวิชาการของตัวเองทำวิจัยสิ! นั่นคือสิ่งที่ Google ทำ เพื่อสร้างประโยชน์ต่อโปรเจกต์รถไร้คนขับของตัวเอง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Virginia Tech ออกมาเปิดเผยผลการวิจัยเรื่องความปลอดภัยของรถไร้คนขับ ไม่ต้องประหลาดใจที่รู้ว่ามันปลอดภัยกว่ารถทั่วๆ ไป ตัวเลขอยู่ที่ อุบัติเหตุ 3.2 ครั้ง ต่อ 1 ล้านไมล์ เทียบกับรถปกติ ตัวเลขอยู่ที่ 4.2 ครั้ง แน่นอนว่า Virginia Tech ได้รับการสนับสนุนโดย Google
ผลการวิจัยครั้งนี้ออกมาหลังจากงานวิจัยที่ให้ผลการศึกษาตรงกันข้ามเมื่อ 2 เดือนก่อน จัดทำโดย University of Michigan ซึ่งเป็นการศึกษารถไร้คนขับของหลายๆ แบรนด์ ทั้ง Google, Delphi และ Volkswagen ผลวิจัยพบว่า รถไร้คนขับมีสถิติอุบัติเหตุมากกว่า
ความเคลื่อนไหวของ Google ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นก้าวที่ใหญ่พอสมควรสำหรับโปรเจกต์นี้ ซึ่งที่ผ่านๆ มา Google ก็พยายามจะให้ข้อมูลว่าอุบัติเหตุส่วนมากเกิดจากมนุษย์ หรือ Human error (แต่บางคนก็โต้แย้งว่า คนขับรถคันอื่นไม่มีสมาธิเพราะรถไร้คนขับทำให้เกิดความสับสนต่างหาก) ทางเดียวที่จะรู้ได้ว่าโปรเจกต์นี้ดีต่อมนุษยชาติหรือไม่ ก็คือเราต้องรอดูอย่างใกล้ชิดกันต่อไป
นอกจากนี้ งานวิจัยของ Virginia Tech ยังโจมตีผลการศึกษาฉบับก่อนหน้า ในประเด็นที่ว่า ผู้ขับขี่ส่วนมากจะไม่รายงานอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ในขณะที่งานวิจัยของ Virginia Tech ทำ ซึ่งเมื่อนับมันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในระเบียบวิธีวิจัย ผลก็คือรถไร้คนขับปลอดภัยกว่า
ไม่ว่าผลการศึกษาของฝ่ายไหนจะออกมาเป็นอย่างไร ที่แน่นอนที่สุดก็คือ รถไร้คนขับชนแล้วไม่มีการทะเลาะวิวาทหรือถอยหลังมาชนซ้ำแน่นอน
ที่มา : Re/Code