ใครก็รู้ว่า content ของตัวเองจะประสบความสำเร็จได้ก็เมื่อชาวออนไลน์ค้นหาเจอ แต่ปัญหาคือ Google ขยันอัปเดทอัลกอริธึมใหม่เหลือเกินจนทำให้เทคนิกวิธีตกแต่ง SEO แบบเก่าอาจใช้ไม่ได้ผลดีอีกต่อไป เพื่อให้เข้าใจอัลกอริธึมที่ Google ขยัน update ต่อเนื่อง ขอให้เริ่มจาก infographic นี้เลย
infographic นี้เป็นของ Miller Media Management ซึ่งไฮไลท์การอัปเดทหลัก 9 ครั้งของเจ้าพ่อ Google ตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งรวมถึงครั้งล่าสุดเมื่อมีนาคมปี 2017
แน่นอนว่าการอัเดททุกครั้งส่งผลถึงผู้สร้าง content ทุกคน เนื่องจาก Google ครองตลาดการค้นหาข้อมูลออนไลน์เกิน 80% ของโลก ซึ่งเมื่อ Google พูด ชาว content creator จะต้องฟัง
infographic อธิบายการอัปเดทในปี 2011 ด้วยรูปแพนด้า หมีตาดำที่ถูกปล่อยมาเคี้ยวเว็บไซต์ไร้คุณภาพ รวมถึงล้างบาง “content farm” ซึ่งจัดเต็มเนื้อหาซ้ำไปซ้ำมา และใช้ keyword พร่ำเพรือ
การอัปเดทครั้งถัดมาถูกเทียบว่าเป็นเพนกวิน (เมษายน 2012) เพนกวินยักษ์ใช้พุงอวบไถลไปรอบโลกออนไลน์เพื่อล่าเว็บไซต์ขยะและเว็บไซต์ปลอมไม่ต่างจากเพนกวินล่าปลา ทำให้ผู้สร้าง content ต้องทำให้มั่นใจว่าเนื้อหาของตัวเองดีงามบริสุทธิ์เหมือนหิมะ เพนกวินยักษ์จึงจะพอใจ
ต่อมาเป็นโจรสลัด การอัปเดทในปี 2014 เน้นกวาดล้างนักล่าออนไลน์ที่โพสต์เนื้อหาผิดลิขสิทธิ์ เนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ล้วนถูกลดอันดับลง
และแล้วก็ถึงยุคนกฮัมมิงเบิร์ด นกน้อยที่ไม่สนใจเว็บไซต์ที่เล่นเกมระบบ SEO ผ่านการจัดเต็มคำหลักและกลยุทธ์หลอกล่อระบบของ Google
สำหรับการอัปเดทล่าสุดถูกเทียบเป็น ”เฟร็ด” ตัวละครที่ฉลาดกว่าตัวละครอื่นในการ์ตูนมนุษย์หิน เพราะการอัปเดตล่าสุดของ Google ในเดือนมีนาคม 2017 ที่ผ่านมาเป็นการปรับแต่งที่เน้นขัดขวางเนื้อหาที่ยัดไส้ลิงก์และโฆษณา โดย Google ยุคใหม่จะลดอันดับเว็บไซต์ที่มีโฆษณามากเกินไป
ข้อมูลเหล่านี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะมีการบันทึกว่า Google อัปเดทอัลกอริธึมการค้นหามากกว่า 600 ครั้งต่อปี ดังนั้นเจ้าของเว็บไซต์จึงต้องติดตามการอัปเดทครั้งถัดไปในปี 2018 อย่างใกล้ชิด เพราะ SEO ของทุกคนขึ้นอยู่กับการอัปเดททุกครั้ง
ที่มา: PRDaily