เป็นการปรับปรุงครั้งใหม่ที่ถูกยกย่องว่าช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงและโอนเงินได้ง่ายขึ้นสำหรับ Google ที่พัฒนาให้บริการ Google Wallet สามารถโอนเงินสู่บัญชีธนาคารของผู้ใช้แต่ละคนได้อัตโนมัติ โดยรองรับทั้งการโอนผ่านแอพพลิเคชันและเว็บไซต์ ถือเป็นการลดการเสียเวลาในการถอนเงินสดหรือเติมเงินสดจากบัญชี Google Wallets ก่อนจะนำไปใช้ต่อยอดทางธุรกิจอื่นได้
การเปิดตัวคุณสมบัติของ Google Wallet นั้นสะท้อนว่าเจ้าพ่อออนไลน์ไม่ได้ทิ้งบริการ Google Wallet ตรงกันข้าม Google Wallet ยังถูกพัฒนาให้มีความสามารถที่ดีขึ้นเพื่อตอบโจทย์ชาวไอทีที่ต้องการโอนเงินผ่านระบบดิจิทัล โดยที่ผ่านมา Google Wallet กำหนดให้ผู้ใช้ต้อง “cash out” หรือเบิกถอนเงินสดออกจากบัญชี Google Wallets ของตัวเองก่อนจะนำไปใช้ได้ ซึ่งทำให้ Google Wallets ถูกตั้งชื่อเล่นว่าเป็นบริการเงินสดในโทรศัพท์มือถือ
แต่การปรับปรุงล่าสุดทำให้ผู้ใช้สามารถข้ามขั้นตอนนี้ไป และส่งเงินเข้าสู่บัญชีธนาคารของตัวเองได้แบบอัตโนมัติ โดยคุณสมบัติใหม่ของ Google Wallet เริ่มเปิดให้บริการแล้วผ่านแอพพลิเคชันเวอร์ชันใหม่ซึ่งเปิดอัปเดทเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากบัญชีธนาคาร ผู้ใช้สามารถกรอกบัญชีเดบิตการ์ดเพื่อให้ระบบโอนเงินสดไปได้อีกทาง จุดนี้รายงานระบุว่า แม้การโอนเงินจาก Google Wallet ไปยังบัตรเดบิตหรือบัญชีธนาคารนั้นจะไม่ได้เกิดขึ้นในทันที แต่ก็ถือเป็นขั้นตอนการโอนเงินที่รวดเร็วขึ้นมากเมื่อเทียบกับขั้นตอนปกติ
รายงานจาก Tech Crunch ชี้ว่าการโอนเงินไปสู่บัญชีบัตรเดบิตนั้นจะเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่การโอนสู่บัญชีธนาคารจะนานกว่า แต่ไม่เกิน 2 ถึง 3 วัน
ที่สำคัญ Google Wallet ยังถูกปรับให้รองรับระบบชำระเงิน Android Pay มากขึ้น เชื่อว่าการปรับตัวของ Google Wallet อาจเป็นการวิ่งหนีคู่แข่งบริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์รายอื่นที่จะเร่งเครื่องเพื่อบุกตลาดชาวออนไลน์อย่างจริงจังยิ่งขึ้นในอนาคต
สำหรับบริการชำระเงินผ่าน Google Wallet เป็นการนำเทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) หรือสื่อสารข้อมูลระยะใกล้ โดยมีบริษัทชั้นนำมากมายร่วมพัฒนาและให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น Subway, Macy’s, Wallgreens, Toys ‘R Us, First Data, Citibank และ MasterCard รวมไปถึง Sprint ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์มือถือชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ซึ่งการเป็นพันธมิตรกับ MasterCard ทำให้ Google Wallet สามารถใช้งานร่วมกับระบบชำระเงิน PayPass ได้ด้วยซึ่งปัจจุบันมีจุดรับชำระมากกว่า 300,000 จุดในช่วงเริ่มแรก
ที่มา : Droidmen
