สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล จับมือสถาบันการเงิน 7 แห่ง สนับสนุนผู้ประกอบการซอฟต์แวร์และดิจิทัลคอนเทนต์เข้าถึงแหล่งทุนเพื่อขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล พร้อมเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอนของการดำเนินธุรกิจ
จากการที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลได้ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการซอฟแวร์และดิจิทัลคอนเทนต์มาอย่างยาวนาน ทำให้พบอุปสรรคสำคัญคือ หลายธุรกิจนั้นขาดแคลนแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ รวมทั้งการบริหารจัดการธุรกิจ เพราะธนาคารส่วนใหญ่ไม่เข้าใจและไม่สามารถตีมูลค่าภูมิปัญญาเหล่านี้เป็นสินทรัพย์ได้ ซึ่งแตกต่างจากธุรกิจอื่น ๆ ที่เป็นรูปธรรมชัดเจน เห็นภาพได้ง่ายกว่า และสามารถใช้เป็นหลักประกันของธุรกิจได้
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลจึงได้จึงร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรต่าง ๆ ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME Bank ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารออมสิน จัดทำมาตรการหรือสิทธิประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการซอฟต์แวร์และดิจิทัลคอนเทนต์
สำหรับแนวทางส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย
- สิทธิประโยชน์ทางภาษีโดยได้ร่วมมือกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในการผลักดันผู้ประกอบการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ทาง BOI ซึ่งผู้ประกอบการที่ได้สิทธินี้จะได้ประโยชน์คือ เมื่อประกอบธุรกิจได้กำไรยังไม่ต้องเสียภาษีประจำปี ซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำกำไรที่ได้ไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนธุรกิจต่อไป
- เรื่องการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา โดยทางสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลจะมีทีมคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจดแจ้งลิขสิทธิ์เพื่อป้องกันการถูกละเมิด ซึ่งถ้าดำเนินการผ่านสำนักงานจะใช้เวลาเพียง 1-2 สัปดาห์จากเดิม 1-2 เดือน นอกจากนี้ผู้ประกอบการที่มาขึ้นทะเบียนจะได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายต่าง ๆ แก่ผู้ประกอบการ เพื่อให้ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง
- ทางสำนักงานสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งเป็นความร่วมมือกับทางสถาบันการเงินพันธมิตรในการอำนวยความสะดวก ลดความยุ่งยากสำหรับการกู้เงินโดยไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์มาค้ำประกัน ซึ่งในปีที่ผ่านมามีผู้ประกอบการสนใจกว่า 311 ราย คิดเป็นมูลค่าวงเงินที่ได้รับกว่า 1,077 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ยังมีโจทย์ใหญ่สำหรับการสนับสนุนผู้ประกอบการซอฟต์แวร์และดิจิทัลคอนเทนต์ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยในปีแรกอาจจะได้ผลไม่มากและไม่สามารถสนับสนุนได้ครอบคลุมหมด แต่เมื่อผ่านไปปีที่ 2 และ 3 เชื่อว่าโครงการจะมีขนาดใหญ่ขึ้นและจะสามารถตอบโจทย์ผู้ประกอบการที่มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 1,000 รายได้
ความร่วมมือครั้งนี้ ทางสำนักส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลเชื่อว่าจะสามารถช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และดิจิทัลคอนเทนต์ของประเทศไทยให้เติบโตมามากขึ้นกว่าเดิม และโครงการดังกล่าวยังสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศด้วยการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน