จบไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่สำหรับ “FOCAL 2017” งานสัมมนาดิจิทัลจาก “GroupM” บริษัทบริหารจัดการการลงทุนสื่อในเครือ WPP ซึ่งในปีนี้ คุณศิวัตร เชาวรียวงษ์ และคุณนิคลาส สตอลเบิร์ก ประธานกรรมการบริหารบริษัท กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย) ได้จัดให้มีการนำเสนอ 6 ทิศทางการตลาดดิจิทัลที่สำคัญสำหรับนักการตลาดไทยผ่านเวทีต่าง ๆ ภายในงานด้วย
โดยภายในงานได้มีการอ้างอิงตัวเลขจาก DAAT ในเรื่องแนวโน้มเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลของปี 2017 ที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีก 24% ซึ่งจะทำให้มูลค่าตลาดสื่อโฆษณาดิจิทัลไทยมีมูลค่าแตะหนึ่งหมื่นล้านบาท (ราว 11,774 ล้านบาท) เป็นครั้งแรก
“ด้วยงบประมาณดังกล่าว น่าจะทำให้เราขึ้นมาอยู่สูสี เป็นสื่ออันดับสองรองจากทีวี ในวงเล็บด้วยว่า เงินนี้เป็นเงินที่ใช้จ่ายผ่านเอเจนซี่เท่านั้น ไม่ได้รวมเงินที่ลูกค้าจ่ายตรงไปยังสื่อดิจิทัล และเงินที่ฐานธุรกิจใหญ่ในบ้านเราอย่าง SME ใช้กัน ซึ่งเราก็กำลังหาทางอยู่ว่าจะรวมได้อย่างไร เพราะคิดว่าถ้ารวมได้แล้ว งบประมาณก้อนนี้จะเห็นได้ชัดเจนขึ้น และจะมีมูลค่ามากกว่านี้อีกมากมาย” คุณศิวัตร เชาวรียวงษ์กล่าวพร้อมให้ข้อมูลต่อว่า
“สิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้คือ การผลักเงินของงบโฆษณาบางส่วนของสื่อทีวีมาอยู่บนสื่อดิจิทัล แล้วก็มีอีกหลายแบรนด์ที่ไม่ได้โยกงบมาจากสื่อทีวี แต่เพิ่มงบในส่วนสื่อดิจิทัล ซึ่งการปรับตัวนี้น่าจะทำให้ยอดโดยรวมเติบโตขึ้น”
สำหรับหัวข้อหลักของงานในปีนี้คือพฤติกรรมของคนไทยที่ใช้โทรศัพท์มือถือจนกลายเป็นอุปกรณ์หลักของชีวิต ทั้งใช้ในการเข้าอินเตอร์เน็ต และทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ แต่ในมุมของนักการตลาดนั้นก็ต้องเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสื่อและการหากลยุทธ์เพื่อความอยู่รอดสำหรับธุรกิจ e-Commerce เอาไว้ด้วยเช่นกัน
4 เครื่องมือสำคัญสำหรับนักการตลาดยุค 2017
โดยการจะติดอาวุธให้นักการตลาดยุค 2017 ให้ทำงานได้อย่างครบเครื่องนั้น คุณศิวัตรได้เผยว่า นักการตลาดจำเป็นต้องมีเครื่องมือสำคัญ 4 ประการ ดังนี้
- Realtime media Dashboard, Monitoring Tools
- Programmatic (DSP/SSP)
- Social Listening Tool
- Data Analytic Platform
Brand Safety ในไทยปลอดภัยหรือเปล่า
นอกจากเทรนด์เรื่องวงการ Digital Marketing แล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กันจากนักการตลาดก็คือเรื่องของ Brand Safety ซึ่งในต่างประเทศกำลังมีประเด็นกับ Google และ YouTube อย่างหนัก เหตุเพราะระบบ Programmatic ของ Google มีการวางโฆษณาของแบรนด์เอาไว้กับคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสมนั่นเอง ในจุดนี้ เมื่อถามถึงสถานการณ์ในเมืองไทย คุณศิวัตรกล่าวว่า สำหรับประเทศไทยนั้น มีการสกรีนในระดับหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ดี ปัญหาเรื่อง Brand Safety นั้นไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการลดราคาอย่างแน่นอน
“บ้านเราถือว่าเคยมีการคุยกันมาแล้วในอดีต แต่เมื่อมันเป็นประเด็นขึ้นมาในระดับโลก เขาก็ต้องเข้มงวดมากกว่านี้ใช่ไหม แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องลดราคา เพราะเรื่อง Brand Safety ราคาเท่าไรก็เอามาแลกไม่ได้”
ทั้งนี้ หนทางป้องกันสำหรับแบรนด์คือ การเลือกลงโฆษณากับคอนเทนต์แบบ Official ซึ่งในมุมมองของคุณศิวัตรนั้น มองว่าพฤติกรรมคนไทยเองก็มีการรับชมคอนเทนต์จากฝั่ง Media Provider ค่อนข้างมากอยู่แล้ว
หากกล่าวโดยสรุป มุมมองของ GroupM ที่นำเสนอผ่านงาน FOCAL 2017 คือการที่สื่อดิจิทัลได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตคนไทย ในการยกระดับชีวิตให้สะดวกมากขึ้น ทำมาหากินได้มากขึ้น แม้กระทั่งมิติของความบันเทิงก็มีตัวเลือกมากขึ้น ซึ่งถ้าหากมีอะไรที่ทำให้มันดีขึ้นได้ขนาดนี้ ก็จะทำให้ผู้บริโภคยึดติดและอยู่กับสิ่งนั้น ๆ ไปตลอดได้ในที่สุด