และแล้วก็ถึงวันนี้ที่เว็บดีลอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Groupon เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์อย่างเป็นทางการและเริ่มเปิดให้มีการซื้อขายหุ้นเป็นวันแรก ซึ่งแม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวที่ไม่ค่อยดีนักเกี่ยวกับการลาออกของผู้บริหารและการปรับเป้ารายได้ลง แต่เม็ดเงินที่ Groupon สามารถระดมได้จากการ IPO กว่า 700 ล้านเหรียญก็ถือเป็นสถิติที่น่าจับตาเป็นอย่างมากเพราะถือเป็นมูลค่าที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของการ IPO ของธุรกิจอินเทอร์เน็ตและเป็นรองเพียงแค่ Google เท่านั้น
ภาพประกอบจาก CNNMoney
การระดมเงินในตลาดหลักทรัพย์จากการ IPO ไปกว่า 700 ล้านเหรียญครั้งนี้ ทำให้มูลค่าบริษัทของ Groupon ขึ้นไปแตะที่ 13,000 ล้านเหรียญ หรือเกือบ 400,000 ล้านบาท ซึ่งหากพิจารณาว่าบริษัทแห่งนี้มีอายุเพียง 3 ปี ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นมูลค่าที่สูงมากและการ IPO เป็นรองเพียงแค่ Google เท่านั้น ซึ่งยักษ์ใหญ่อย่าง Google เคยทำสถิติที่สูงที่สุดของ IPO ไว้ที่ 1,700 ล้านเหรียญในปี 2004 โดยกรณีของ Groupon นี้ บริษัทได้มีการเพิ่มจำนวนหุ้นขึ้นอีก 5 ล้านหุ้นเป็น 35 ล้านหุ้นก่อนการเปิด IPO โดยแต่ละหุ้นมีมูลค่าที่ 20 เหรียญ หรือกว่า 600 บาท ซึ่งหุ้นที่มีการเปิดขายในตลาดนี้ถือเป็นเพียง 5% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัทเท่านั้นและถือเป็นสัดส่วนที่น้อยที่สุดแห่งหนึ่งที่มีการเปิดขายในรอบทศวรรษที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์หลายรายได้ออกมาระบุว่าหุ้นของ Groupon ถือว่าค่อนข้างแพงเนื่องมาจากจำนวนหุ้นที่น้อยมาก และด้วยมูลค่าของบริษัทร่วม 13,000 ล้านเหรียญ ทำให้มูลค่าของ Groupon สูงกว่ามูลค่าที่ Google เสนอซื้อบริษัทเมื่อปีที่ผ่านมากว่า 2 เท่าตัวทีเดียว
ปัจจุบัน Groupon ให้บริการดีลหรือส่วนลดของสินค้าและบริการให้แก่ผู้บริโภคกว่า 150 ล้านคนต่อวันใน 40 กว่าประเทศทั่วโลกและเป็นผู้ให้บริการอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมนี้ โดยมีคู่แข่งที่เป็นอับดับ 2 ของโลกได้แก่ LivingSocial ที่ล่าสุดได้เข้ามาซื้อกิจการ Ensogo ในบ้านเราไปแล้ว และ Groupon เองก็ได้เริ่มเข้ามาตั้งบริษัทและรับสมัครพนักงานในประเทศไทยด้วยเช่นกัน แต่ที่ผ่านมายังไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆ ต่อสาธารณชนได้เนื่องจากติดข้อจำกัดการห้ามให้ข่าวในช่วงก่อนการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ แต่หลังจากนี้คงจะได้เห็นความเคลื่อนไหวอื่นๆ อย่างเป็นทางการมากขึ้น
ที่มา:?Reuters
หมายเหตุ: IPO หรือ Initial Public Offering คือ การที่บริษัทเอกชนเปลี่ยนสถานะมาเป็นบริษัทมหาชนและมีการซื้อขายหุ้นของบริษัทเป็นครั้งแรก โดยจุดประสงค์ก็เพื่อการระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์เพื่อใช้ในการขยายกิจการของบริษัทหรือเพื่อจุดประสงค์อื่นๆ