หลังจากที่ก่อนหน้านี้ต้องประสบปัญหารุมเร้ามากมาย วันนี้ Eric Lefkofsky ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอคนปัจจุบันก็มองเห็นหนทางที่จะฟื้นฟูกิจการอีกครั้ง ด้วยการยกระดับจากเว็บขายดีล มาเป็นผู้ค้าปลีกอย่างเต็มตัว และจะเดินหน้าสร้างเครือข่ายคลังสินค้าที่เข้มแข็ง
ผู้บริหาร Groupon ประกาศว่าตอนนี้บริษัทกำลังศึกษาการสร้างเครือข่ายคลังสินค้าในแถบอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแผนการเปิดตัวบริการขายปลีกสินค้า ที่ผู้ร่วมก่อตั้ง Groupon อย่าง Lefkofsky เชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่จะสร้างผลกำไรให้กับบริษัทได้มากขึ้น
การเปิดเผยครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมดีลรายวันอย่าง Groupon.com ต้องประสบปัญหาความนิยมตกต่ำ เช่นเดียวกับคู่แข่งเช่น Living Social ที่ต้องพยายามดิ้นรนและหาทางรอดให้ตัวเองโดยเร็ว ทั้งหมดนี้ทำให้บริษัทต้องหันมาขายสินค้าราคาพิเศษบนอินเทอร์เน็ตในปี 2011 ซึ่งผลลัพท์นั้นออกมาดีทีเดียว โดยยอดขายจากสินค้ากลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วน 40% ของยอดขายรวมของ Groupon
อย่างไรก็ตาม Lefkofsky มองว่าการขายปลีกสินค้าราคาประหยัดพิเศษนั้นสร้างผลกำไรได้น้อย ทำให้ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงให้บริษัทมีความมั่นคงมากขึ้นด้วยการยกระดับขึ้นเป็นผู้ค้าปลีกอย่างเต็มตัว ซึ่ง Lefkofsky เชื่อว่าการจะเอาชนะคู่แข่ง เช่น eBay, Walmart, Amazon, Target หรือ Google ได้นั้น Groupon จำเป็นจะต้องมีการบริการที่เท่าเทียมกับคู่แข่งเสียก่อน
หากมองในตลาดค้าปลีกอเมริกันปัจจุบัน ผู้ค้าปลีกส่วนมากในสหรัฐฯ ล้วนพยายามแข่งขันด้วยการนำเสนอบริการส่งฟรี หรือบริการรับคืนสินค้า รวมถึงบริการส่งสินค้าภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดถือเป็นกลยุทธ์ที่ผู้ค้านำมาใช้เป็นจุดเด่นของตัวเอง ดังนั้นการจะแข่งขันกับบริษัทค้าปลีกที่ให้บริการมายาวนาน นับว่าเป็นงานหินที่สะท้อนว่า Groupon จะต้องทำการบ้านอีกมากและต่อเนื่อง
ความเห็น: ในที่สุด สิ่งที่เราเคยพูดไว้ก็เริ่มมีแววเป็นจริง
ที่มา: VentureBeat