นี่อาจเป็นผลสำรวจที่เปลี่ยนแปลงวงการแอพพลิเคชันด้านสุขภาพ เพราะการสำรวจพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่ปลื้มกับการเก็บข้อมูลสุขภาพในอุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟน โดยยังเลือกจดจำไว้เองหรือไม่ก็จดลงในสมุดบันทึก แถมยังเป็นการเก็บข้อมูลโดยไม่ใช้อุปกรณ์เสริม ถือเป็นโจทย์ข้อใหญ่ที่ตลาดแอพพลิเคชันและอุปกรณ์ดิจิตอลด้านสุขภาพต้องแก้ให้ออก
เราคงเคยเห็นหน้าอุปกรณ์วัดความดัน หรือตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ที่สามารถทำงานเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตกันมาบ้าง อุปกรณ์เหล่านี้ปรากฏอยู่ในชั้นวางที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์เสริมแกดเจ็ดขนาดใหญ่ก็จริง แต่รู้หรือไม่ว่าคนส่วนใหญ่โดยเฉพาะชาวอเมริกันซึ่งมีอัตราการใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตสูงมากนั้นนิยมบันทึกข้อมูลสุขภาพไว้ในสมุดบันทึกหรือจดจำไว้ในสมอง มากกว่าการเก็บในสมาร์ทโฟนผ่านแก็ดเจ็ด
สำนักวิจัย Pew เปิดเผยผลสำรวจที่นักพัฒนาแอพต้องทำความเข้าใจ เพราะในผลสำรวจได้แสดงให้เห็นว่ากว่า 69% ของประชากรอเมริกัน เก็บบันทึกข้อมูลเรื่องสุขภาพตัวเองเสมอ เช่นข้อมูลน้ำตาลในเลือด, ความดัน, น้ำหนัก หรือแม้กระทั่งรูปแบบการนอน และผลสำรวจที่น่าสนใจคือคนส่วนใหญ่ชอบจำ หรือเลือกจดลงสมุดบันทึก โดยกลุ่มตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 21% เท่านั้นที่ใช้งานอุปกรณ์เพื่อช่วยในการเก็บข้อมูล ถือว่ายังน้อยเมื่อเทียบกับ 34% ที่เลือกจดข้อมูลเหล่านั้นในสมุดบันทึก และอีกเกือบครึ่งนึงของกลุ่มตัวอย่าง หรือราว 49% เลือกจำข้อมูลเอาไว้เอง
ผู้บริหารจาก Pew อธิบายว่านี่เป็นความท้าทายสำหรับนักพัฒนา ที่จะทำอย่างไรเพื่อดึงคนกลุ่มนี้ให้มาใช้งานอุปกรณ์หรือแอพพลิเคชั่นเพื่อเก็บข้อมูลสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มตลาดใหญ่ที่สุดที่ยังเลือกจำข้อมูลไว้และมีโอกาสผิดพลาดได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนกลับมองว่าจำนวนผู้ที่ใช้งานอุปกรณ์เพื่อเก็บข้อมูล 21% นั้นก็นับว่ามากแล้ว เพราะในตอน่นี้ตลาดแอพพลิเคชันและอุปกรณ์สำหรับเก็บข้อมูลสุขภาพยังถือว่าใหม่อยู่
กระแสรักสุขภาพในบ้านเราก็ได้รับความนิยมมากเหมือนกัน ดูได้จากจำนวนฟิตเนสที่ผุดขึ้นตามจุดต่างๆ งานนี้ถ้านักพัฒนาแอพพลาดโอกาสนี้ไปละก็น่าเสียดายแทนจริงๆ
ที่มา: Mashable