จากข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่าธุรกิจร้านอาหารเป็นประเภทธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก (รองจากธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์) โดยเฉพาะในปี 2563 นี้ เป็นปีที่ธุรกิจร้านอาหารต้องเจอกับปัญหาและแรงกดดัน รวมถึงรูปแบบการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไป

ปัญหาที่ธุรกิจร้านอาหารต้องเชิญและเป็นสาเหตุที่ทำให้ธุรกิจร้านอาหารปิดตัวลง คือ ปัญหาด้านการบริหารจัดการต้นทุน ปัญหาในการบริหารจัดการคน ปัญหาการบริหารจัดการระบบหลังบ้าน และปัญหาการทำการตลาด

ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้และยังไม่มีแพลตฟอร์มใด ที่จะสามารถตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ได้เพียงแพลตฟอร์มเดียว แต่มักเป็นการใช้หลายแพลตฟอร์มเพื่อแก้ปัญหาทำให้เกิดความยากลำบากในการทำงานของคนที่ทำธุรกิจ

จากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย มีการคาดการณ์ว่าตลาดธุรกิจร้านอาหารในปี 2563 นี้จะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 4.37– 4.41 แสนล้านบาท (คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.7 ของ GDP ภาคบริการ) ขยายตัว 1.4 – 2.4% จากปี 2562

คุณณปภัช พิทักษ์ศิริพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของไฮท์ เวนเจอร์ส (Hive Ventures) กล่าวว่า จากการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์และความผิดพลาด จนพบปัญหาว่าระบบ POS ที่ใช้งานอยู่ ไม่สามารถตอบโจทย์การทำธุรกิจได้ทั้งหมด

ยกตัวอย่างเช่น การบริหารจัดการสต็อก การคำนวณสูตรอาหาร พบว่าระบบการแปลงหน่วยในแอปพลิเคชัน กับหน่วยของวัตถุดิบเป็นคนละหน่วยกัน ปัญหาที่ตามมา คือ การตัดสต็อกไม่มีมาตรฐาน ผมต้องแก้ไขปัญหาโดยการผูกสูตรใน Excel หรือใช้แอปพลิเคชันตัวอื่น ๆ ช่วย

หรือแม้แต่เรื่องของคน ปัญหาการเข้าออกของพนักงาน ปัญหาการทุจริตภายใน เป็นปัญหาที่ไม่เคยแก้ไขได้ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาที่ผมเจอ เพราะการทำธุรกิจร้านอาหารจริง ๆ แล้ว มีเรื่องให้เราต้องแก้ไขทุกวัน แต่ไม่มีใครมาบอกว่า ควรแก้ไขอย่างไร จึงเริ่มจุดประกายไอเดียว่า ทำไมไม่มีโซลูชั่นที่เป็นทางออกสำหรับทุก ๆ เรื่องในแอปพลิเคชันเดียว

บริการที่ครบวงจรสำหรับร้านอาหาร

Hive RI  มีหลากหลายฟีเจอร์ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของร้านอาหารทุกประเภท เช่น ร้านอาหารประเภท Fine Dining ร้านอาหารประเภท Buffet ร้านอาหารประเภทผับ บาร์ ร้านอาหารประเภทคาเฟ่ ไปจนถึงร้านอาหารประเภท Streetfood / Truckfood หรือร้านอาหารประเภท Online Delivery สามารถแยกฟังก์ชั่นการใช้งานของ Hive RI ออกเป็น 3 ฟังก์ชั่นหลัก ประกอบด้วย

1. ฟังก์ชั่นการขาย ช่วยให้ผู้ประกอบการทำการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกลุ่ม ให้เหมาะสมกับประเภทธุรกิจร้านอาหาร
2. ฟังก์ชั่นการบริหารจัดการ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องการบริหารจัดการระบบขายหน้าร้าน (POS) และระบบหลังบ้านได้อย่างรวดเร็ว ไม่เสียเวลา
3. ฟังก์ชันการบริหารเงินทุน ทั้งต้นทุนคน และต้นทุนอาหาร

ซึ่งตอนนี้ทางบริษัทได้ตั้งเป้าไว้ว่า อยากจะมีร้านค้าในระบบกว่า 13,500 ร้านค้า ซัพพลายเออร์จัดส่งวัตถุดิบไม่เกิน 700 ราย โดยจะเปิดให้บริการช่วงกลางปี 2020

“ระบบของเราจะเปิดให้มีการฟีดแบ็คซึ่งกันและกัน เพื่อให้คัดกรองซัพพลายเออร์ที่ดีที่สุดในการจัดส่งสินค้าให้แก่ร้านอาหาร และลดปัญหาการผูกขาดเพื่อเปิดโอกาสให้ซัพพลายเออร์ได้มีโอกาสขายสินค้าได้มากขึ้น”

นอกจากนี้ ยังใช้กลยุทธ์ด้วยการเข้าถึงกลุ่มออนไลน์ อย่างบล็อกเกอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์มาร่วมทำคอนเทนต์ด้วยกัน เพราะคนเหล่านี้เรียกได้ว่ามีความสามารถในการใช้งานด้านแอปพลิเคชั่นและมีพฤติกรรมเชื่อมโยงทั้งออนไลน์และออฟไลน์ได้เป็นอย่างดี น่าจะช่วยดึงผู้บริโภคหน้าใหม่เข้ามาใช้บริการของเราได้มากขึ้น

ทั้งยังมีการทำโปรโมชั่นให้แก่ผู้ใช้งานด้วยทั้งด้านโปรโมชั่นพิเศษและระบบ CRM เพื่อดึงให้คนเข้าถึงร้านอาหารมากขึ้น

เปิดให้ร้านอาหารใช้งานฟรี

 

ทางด้านคุณไพโรจน์ วงศ์สินหิรัญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Chief Progress Product Officer) กล่าวว่า ฟังก์ชั่นหลักที่เรามี ถือเป็นหัวใจสำคัญ ที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจ ที่ช่วยให้ธุรกิจร้านอาหารทำกำไรได้ดีขึ้น ลดความผิดพลาดได้น้อยลง Hive RI ทำงานด้วย Cloud-base restaurant management ที่มีความยืดหยุ่น ใช้งานง่าย สะดวก สามารถปรับให้เข้ากับร้านอาหารทุกประเภท สามารถทำงานแม้ไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต รองรับหลายภาษา รวมถึงรองรับการใช้งานทั้งบน iPad และ Mobile

“ผมเชื่อว่าด้วยจุดเด่นที่ทุกบริการบนแพลตฟอร์มนี้ ฟรี ไม่ได้มีค่าใช้จ่าย จะดึงดูดให้ทั้งร้านอาหารและผู้ใช้งานหันมาใช้บริการนี้มากขึ้น”

นอกจากนี้ เพื่อให้การรับส่งวัตถุดิบสำหรับซัพพลายเออร์และร้านค้ามีความสะดวกขึ้น จึงมีความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ด้านเดลิเวอรี่ คือ ลาล่ามูฟและเอสซีจีแมวดำ ทำให้ช่วยลดต้นทุนในการขนส่งวัตถุดิบให้สะดวกขึ้น