ฮอนด้า ซิตี้ รถยนต์ซิตี้คาร์ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี เรียกว่าเป็นรุ่นยอดนิยมรุ่นหนึ่งสำหรับคนเมืองชาวออฟฟิศที่ต้องใช้ขณะเดินทาง เพราะเป็นรถยนต์ที่นั่งสบาย ดีไซน์มีเอกลักษณ์ ขนาดกะทัดรัด รูปทรงสวยงาม และในช่วงปลายปี 2019 นี้ ทางฮอนด้า ก็ตัดริบบิ้นเปิดตัว The City Turbo รุ่นที่ 5 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดที่มีความโดดเด่นไม่แพ้รุ่นก่อนหน้า มาเอาใจคนที่กำลังมองหารถยนต์รุ่นใหม่ในปีนี้
นอกจากจุดเด่นเรื่องของความโฉบเฉี่ยวแล้ว The City Turbo ยังมาพร้อมกับพลังเทอร์โบใหม่ 1.0 ลิตร 122 แรงม้า แต่ยังให้การประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร พลังเทอร์โบใหม่ 1.0 ลิตร 122 แรงม้า รวมทั้งราคาเปิดตัวก็ยังถูกกว่า Generation 4 ด้วย
ความเป็นมาของฮอนด้า ซิตี้
คุณมาซายูคิ อิงาราชิ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ งานปฏิบัติการประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น และประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า ซิตี้ นับเป็นหนึ่งในยนตรกรรมที่สำคัญของฮอนด้าที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นยนตรกรรมสำหรับภูมิภาค (Regional Model) โดยเปิดตัวเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียเมื่อปี พ.ศ. 2539
และได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เจเนอเรชัน 1 ถึง เจเนอเรชัน 4 ด้วยยอดขายสะสมใน 60 ประเทศทั่วโลกกว่า 4 ล้านคัน ซึ่งภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียเป็นตลาดที่สำคัญของฮอนด้า ซิตี้ เห็นได้จากยอดขายกว่า 100,000 คัน ในปี 2562 (มกราคม – กันยายน 2562) คิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% จากยอดขายฮอนด้า ซิตี้ ทั่วโลก
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังถือเป็นตลาดหลักของ ฮอนด้า ซิตี้ ทั้งในแง่ของการเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง อีกทั้งเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของฮอนด้าในภูมิภาคอีกด้วย และลูกค้าชาวไทยจะได้สัมผัสกับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ เป็นประเทศแรกในโลก โดยจะเป็นยนตรกรรมที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ที่เหนือความคาดหมายของลูกค้าและสร้างมาตรฐานใหม่ให้ตลาดรถยนต์ไทยได้อีกครั้งหนึ่ง
ส่งแคมเปญล่าสุด Reimagine ย้ำจุดเด่น
ในช่วงเดือนที่ผ่านมาจะเห็นเหล่าคนดังและ influencer หลายคน โพสต์บนโซเชียลมีเดียคำว่า Reimagine พร้อมชวนให้ดิดมุมมองใหม่ในเรื่องต่างๆ ซึ่งเมื่อค้นหาที่มาของแคมเปญนี้ก็พบว่าเป็นส่วนหนึ่งในการเปิดตัวรถยนต์ Honda City รุ่นใหม่ล่าสุดของปลายปี 2019
ความน่าสนใจของแคมเปญนี้คือ “REIMAGINE YOUR NEW POSSIBILITIES เปิดทุกความเป็นไปได้” ซึ่งหมายถึงการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่นี้ ที่จะมาเปิดปรากฏการณ์ครั้งใหม่ของรถยนต์ในเมืองสำหรับคนรุ่นใหม่
โดยแคมเปญนี้ ได้แนะนำความโฉบเฉี่ยวของรถผ่าน Influencer ชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Kayavine, เฟื่องลดา, BKK Menu, Beartai, Contrast, Happy Nancy เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าแต่ละคนนั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับสายรถยนต์เลย แต่พวกเขากล้าที่จะ “เปิด” รับเรื่องราวใหม่ๆ และสิ่งใหม่ๆ เพื่อให้ชีวิตได้เห็นถึงความแปลกใหม่และเรื่องราวใหม่ๆ ที่น่าสนใจ
ส่งเพลงล่าสุด “เปิด” จากฝีมือนักแต่งเพลงคนดัง
นอกจากเรื่องของคุณสมบัติรถยนต์รุ่นใหม่ที่โดดเด่นแล้ว ฮอนด้ายังจัดทำเพลงพิเศษ ร่วมกับนักแต่งเพลงชื่อดัง คุณบอย โกสิยพงศ์ มาร่วมสร้างสรรค์เพลง “เปิด” ในเวอร์ชั่นต้นฉบับให้มีความโดดเด่นด้วยจังหวะแร๊ปเท่ๆ ร่วมกับดีไซน์ความสนุกสนานของเพลงให้คนที่อยากฟังกับเสียงร้องของ คิว-สุวีระ บุญรอดและมิน เพชรชมพู พันธิสุนทร ที่เปิดให้รับฟังได้แล้วใน Joox
ฟังเพลง เปิด เวอร์ชัน REIMAGINE ที่เต็มไปด้วยพลังกว่าที่คุณเคยได้ยินมาก่อน โปรเจ็คเพลงสุดเอ็กคลูซีฟจาก ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ โดย บอย โกสิยพงษ์ ผ่านเสียงร้องของ คิว-สุวีระ และท่อนแร๊พจาก มิน-เพชรชมพู พันธิสุนทร แร๊พเปอร์รุ่นใหม่ ร่วมกันถ่ายทอดให้บทเพลงทรงพลังมากยิ่งขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงแนวความคิดจาก ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ที่จะมาเปิดปรากฏการณ์ครั้งใหม่
จุดเด่นของรุ่นล่าสุด
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่นี้ ยังคงยืนหยัดพิกัดขนาดตัวรถไว้ในกลุ่ม B-Segment เช่นเดิม แต่จะปรับเปลี่ยนในเรื่องของขุมพลังใหม่ ให้เป็นแบบ Downsizing 3 สูบ 1.0 ลิตร VTEC Turbo มาวางแทน เพื่อให้เข้ามาอยู่ในกลุ่ม ECO-Car Phase 2 ที่มีความเข้มงวดด้านการปล่อยก๊าซ CO2 มากขึ้น ลดปัญหาด้านมลภาวะและปล่อยมลพิษลดลง เพื่อรวมถึงต้องมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยพื้นฐานมากขึ้น
คุณพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ฮอนด้า ซิตี้ เป็นยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในระดับรถซิตี้คาร์ ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จนสามารถครองตำแหน่งผู้นำในตลาดซับคอมแพคท์ จากความสำเร็จของ ฮอนด้า ซิตี้ กว่า 2 ทศวรรษ การพัฒนา ฮอนด้า ซิตี้ เจเนอเรชันใหม่ จึงถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญ โดยจะเป็นรถซิตี้คาร์ที่พัฒนาให้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมและเหนือกว่ารถในระดับเดียวกันในทุกด้าน
แต่ยังเพิ่มความคุ้มค่าด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ซึ่งมาพร้อมราคาที่ปรับลดลงในทุกเกรด ด้วยคุณค่าใหม่นี้ ฮอนด้า ซิตี้ เจเนอเรชันที่ 5 จะเข้ามาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอีกครั้ง
ไฮไลต์ที่น่าสนใจ
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตและสง่างาม สะกดทุกสายตาด้วยเส้นสายที่เฉียบคมโดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED กระจังหน้าแบบโครเมียม เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารเปลี่ยนทุกสุนทรียภาพให้กว้างขวางกว่าที่เคยด้วยการออกแบบพื้นที่ให้สอดคล้องกับสรีระ เพื่อความสะดวกสบายในทุกที่นั่งทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร มาพร้อมความหรูหราและสวยงามยิ่งขึ้นในโทนสีดำ หรือเบาะหนังและภายในสีทูโทน ไอเวอรี่/ดำ (เฉพาะรุ่น SV) คอนโซลหน้าแบบ Piano Black มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม
อาทิ มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น
ครั้งแรกกับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ รุ่น RS ที่เปลี่ยนมุมมองรถซิตี้คาร์ให้สปอร์ตหรูหรามากกว่าที่เคย ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบ RS รอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Gloss Black และสัญลักษณ์ RS มาพร้อมกันชนหน้าและกระจังหน้าสไตล์สปอร์ต ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว
สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black พร้อมสัญลักษณ์ RS และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ภายในห้องโดยสารสะท้อนความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสงสีแดง และดึงดูดทุกสายตาด้วยสีภายนอกใหม่ สีแดงอิกไนต์ (Ignite Red) เฉพาะรุ่น RS
ท้าทายข้อจำกัดทุกการขับขี่ด้วยขุมพลังเทอร์โบใหม่ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว มาพร้อม Turbo Charger ที่อัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน–เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที
ช่วยให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร (เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม) และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด สะดวกสบายด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ โดยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานไอเสียยูโร 5 (EURO 5) ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กิโลเมตร และสามารถรองรับน้ำมัน E20 ได้อีกด้วย
เพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทางด้วยถุงลม 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) และกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่
- รุ่น RS ราคา 739,000 บาท
- รุ่น SV ราคา 665,000 บาท
- รุ่น V ราคา 609,000 บาท
- รุ่น S ราคา 579,500 บาท
และมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น RS สีขาวแพลทินัม (มุก) เฉพาะรุ่น RS และรุ่น SV สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า เฉพาะรุ่น V และรุ่น S โดยมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ สำหรับลูกค้าที่จอง ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 – 31 ธันวาคม 2562 และรับรถภายในวันที่ 31 มกราคม 2563 รับนาฬิกา Fitbit Smart Tracker รุ่น Charge 3 สี Graphite/Black มูลค่า 6,490 บาท
เสริมความสปอร์ตในสไตล์คุณไปอีกขั้นด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) รอบคัน ที่มาพร้อมกับแนวคิด “Stage Up Booster” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก เช่น สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก ราคา 8,150 บาท แป้นคันเร่งและเบรกดีไซน์สปอร์ต ราคา 1,300 บาท คิ้วบันได LED ราคา 4,400 บาท ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วลายสปอร์ต ราคา 3,600 บาท (ราคาต่อ 1 วง ไม่รวมยาง) ไฟตัดหมอกแบบ LED ราคา 5,500 บาท และกล้องหน้ารถ ราคา 3,850 บาท
นอกจากนี้ยังมีให้เลือกในรูปแบบแพ็กเกจ ทั้งหมด 3 แพ็กเกจ ได้แก่
- Modulo Aero Package ราคา 15,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น
- Modulo Aero RS Package ราคา 17,900 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และ สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น
- Modulo Aero Sport Package ราคา 23,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น และ สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก
ลูกค้าที่สนใจสามารถสัมผัส ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้ที่บูทฮอนด้า (A14) ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 (The 36th Thailand International Motor Expo 2019) ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2562 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลจากที่ปรึกษาการขายได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/city โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อทดลองขับผ่าน www.honda.co.th/testdrive ชมรายละเอียดของฮอนด้า ซิตี้ รุ่นล่าสุด ได้ที่นี่
บทความนี้เป็น Advertorail