เขียนเป็นข่าวและบทความมาตลอด ขอเล่นอะไรเบาๆ สบายๆ ต้อนรับ Long weekend กันบ้างนะครับ การ์ตูนเรื่อง How a Web Design Goes Straight to Hell มันสนุกดีจริงๆ เอามาแปลเล่นๆ อ่านกันขำๆ นะครับ ถือว่าเปลี่ยนบรรยากาศบ้างละกัน
อะไรๆ ก็ดูเจ๋งในช่วงแรกๆ? ลูกค้าบอกความต้องการของตัวเอง คุณเองก็สร้างความคาดหวังให้ลูกค้าว่ามันจะออกมาดี ทุกอย่างดูน่าตื่นเต้นไปเสียหมด
ลูกค้า: เว็บใหม่มันจะต้องเยี่ยมยอดมาเลยใช่มะ
Web Designer: แค่เยี่ยมยอดเองอ๊ะ? มันจะต้องเยี่ยมยอดอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะคร้าบ เชื่อขนมกินได้เลย
ลูกค้าเริ่มโชว์เว็บเก่าที่แสนห่วยให้คุณดู คุณกับลูกค้าหัวเราะลั่นกับดีไซน์ห่วยๆ
ลูกค้า: ฮ่าๆ ห่วยชะมัดเลย ไอ้ Web Designer คนเก่ามันไม่เอาห่วย
Web Designer: จริงที่สุด มันเกิดขึ้นได้ยังไงเนี่ย ห่วยอย่างไม่น่าให้อภัยจริงๆ
คุณออกแบบเว็บไซต์ใหม่ มันดูใหม่ไฉไลกว่าเดิมและใช้งานได้ดีกว่าเดิมล้านเปอร์เซ็นต์
Web Designer: เสร็จแล้ว โชว์เว็บกันหน่อย แอ่น แอน แอ๊นนนนน
ลูกค้า: ชอบจัง! ดูสุดยอดเลย! ถ้าเว็บเป็นผู้หญิงนี่ขอ xxx แล้วนะ แต่…
ขอเปลี่ยน “นิโหน่ย” ได้ไหม??? ลูกค้ากล่าวว่า “ดีไซน์นี้สมบูรณ์แบบเลย แต่ผมเป็น CEO นะ มันเป็นภาระหน้าที่ของผมที่จะต้องเปลี่ยนอะไรสักอย่าง จะได้ถือว่าทำงานเต็มที่แล้ว เอ้อ จะพูดกับคุณยังไงดีนะ อ้อต้องใช้ศัพท์หรูๆ หน่อยนะอย่างคำว่า “user experience” “conversion oriented” ให้มันฟังดูฉลาดสักหน่อย ถึงผมเกือบจะใช้คอมพ์ยังไม่ได้เลยก็เถอะ… เออนี่คุณ Web Designer คุณช่วยปรับให้มันดู “โดนๆ” (pop) หน่อยได้ไหม มันจะต้องดู “เดิ้นๆ” (edgy) หน่อย อย่างนี้มันไม่ได้หรอก” *หมายเหตุจากผู้แต่งการ์ตูน: ลูกค้าเคยพูดคำพวกนี้จริงๆ ถึงวันนี้ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าไอ้คำว่า “โดนๆ” และ “เดิ้นๆ” มันหมายความว่าอย่างไรในเชิงของการออกแบบเว็บ และผมก็ไม่รู้ว่าจะออกแบบตามความรู้สึกของใครสักคนหนึ่งอย่างไรดี
แล้วจาก “นิโหน่ย” ก็เพิ่มเข้ามาให้มันดู “เยอะๆ” เข้าไว้ จากที่ว่าเปลี่ยน “นิโหน่ย” ตอนนี้มันชักไม่ “นิโหน่ย” แล้วล่ะ ลูกค้ากล่าวว่า “อืมม ผมไปคิดมาแล้วนะ ผมอยากจะกลับไปใช้ฟอนต์ Comic Sans เอ้อ แล้วคุณทำให้มันมีประกายปิ๊งๆ หน่อยได้ไหม มันจะดูเป็น Web 2.0 ขึ้นมาทันใดเลย และอีกอย่างนึงนะ เส้นมันเยอะไปหน่อย แก้หน่อยนะ นะ?” หมายเหตุผู้แต่งการ์ตูน: ลูกค้าพูดคำพวกนี้กับผมจริงๆ ดีไซน์มันไม่ได้มีอะไรเป็นเส้นไหนอย่างที่เขาว่าเลย พวกนี้มันเป็นเส้นขึ้นมาจากแท็กพวก <div> หรือ <p> ต่างหากเล่า
ลูกค้าเริ่มเอาคนอื่นมาดูด้วย: “เจ๋งเลย แต่ผมอยากได้ฟีดแบคจากเพื่อน เพื่อนร่วมงาน ฯลฯ… ผมขอเอาแม่ผมมาดูด้วยนะ เธอเคยออกแบบใบปลิวขนมอบเมื่อปี 2524 เธอออกแบบเก่งนะครับ” แม่ของลูกค้า: ดีไซน์โดยรวมต้องสว่างกว่านี้สักหน่อยนะ อันนี้มันดูทึมๆ ใส่สีชมพูเข้าไปซะหน่อยไหมคะ? ใส่ลูกแมวเข้าไปสักตัวสิ ใครๆ ก็รักแมว!” หมายเหตุจากผู้แต่งการ์ตูน: ผมเคยเจอลูกค้าเอาแม่มาดูขั้นตอนการออกแบบจริงๆ และเธอก็ออกความเห็นวิจารณ์ใหญ่เลย
สิ้นหวัง: ตอนนี้คุณคงแทบอยากจะเปลี่ยนอาชีพไปล้างจานหรืออาบน้ำให้คนแก่ดีกว่า ลูกค้ากล่าวต่อไปว่า:? Ok อย่าลืมหมาผมด้วยสิ เจ้า Miffles ขาดขาใหญ่ไปได้ยังไง เขาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของผมเลยนะ ผมอยากให้คุณใส่คำว่า “กระแสแห่งการตระหนักรู้” เข้าไปด้วย มันจะทำให้เหมือนกับว่าเจ้า Miffles มันคุยกับคนที่เข้ามาในเว็บได้ ผมจะส่งให้คุณนะว่าจะบรรยายยังไง เช่น “ชั้นชอบอาหารอร่อยมื้อนี้สุดๆ!” และ “หวัดดี! ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของฉันนะ! ฉันเป็นหมาและคุณก็ต้องจับอุ้งติงชั้นหน่อยเซ่! 555” หมายเหตุผู้แต่งการ์ตูน: ผมไม่ได้นั่งเทียนเขียนขึ้นมาเอง มีลูกค้าพูดอย่างนี้จริงๆ
คุณไม่ใช่? Web Designer อีกต่อไปแล้ว: ตอนนี้คุณเป็นเพียงเมาส์เคอร์เซอร์ในโปรแกรมกราฟฟิกที่ลูกค้าสั่งๆๆๆๆๆ เท่านั้น
ลูกค้า: “เหอๆๆ ฉานสร้างเวบด้ายยยส์ ฉานสร้างเวบบบด้ายยยส์เห็นม๊ายยย เอื๊อกๆๆ” หมายเหตุผู้แต่งการ์ตูน: มีครั้งหนึ่งลูกค้าเอาดีไซน์ของผมไปทำใหม่ด้วยตัวเองด้วย Photoshop แล้วส่งอัพเดตมาให้ผม และหลังจากที่ลูกค้าสั่งแก้ครั้งที่ 13 ผมก็ลาขาด ไม่ทำงานให้ลูกค้าคนนั้นอีกแล้ว
น่าขยะแขยงเสียนี่กระไร… ลูกค้าคงลืมไปแล้วว่าจ้างคุณมาทำอะไร