เป็นเรื่องปกติทั่วไปเมื่อผู้ประกอบการจะทำอะไรนั้น ต้องกำหนดกลยุทธ์การตลาด เพื่อให้ได้ผลงานตามเป้าหมายที่วางไว้ มีการกำหนดกลุ่มลูกค้าที่เฉพาะเจาะจง วางงบประมาณและระยะเวลาในการดำเนินงาน ยิ่งในยุคดิจิตอลแล้ว การหาข้อมูลในการวางแผนเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินความสามารถ และบทความนี้จะแสดงภาพรวมของกระบวนการวางกลยุทธ์อย่างคร่าวๆ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบ หรือเหล่า Startup รายใหม่ ที่ก้าวเข้าสู่วงการดิจิตอล
จากภาพด้านล่าง เป็นแผนภูมิที่แสดงให้เห็นถึงกระบวนการและตัวชี้วัดที่สามารถใช้ในการวัดประสิทธิภาพ รวมถึงช่องทางการทำงานที่ดีที่สุดสำหรับเป้าหมายที่จำเพาะเจาะจงนั้นๆ
วิธีการใช้แผนภาพ
- เริ่มจากส่วนรุ้งกินน้ำบนสุดของภาพ ให้ระบุว่าแบรนด์ของคุณมีเป้าหมาย วัตถุประสงค์ ระยะเวลาที่ได้ผลตอบแทนคือ สถานที่ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ข้อมูลลูกค้า และอุปกรณ์ (ในที่นี้หมายถึง Desktop, Mobile และ Tablet) ว่ามีอะไรบ้าง จากหมายเลข 1 ไปจนถึง 6
- เลือกช่องทางที่เหมาะสมในการกระจายหรือโปรโมตแบรนด์ของคุณ มีให้เลือกด้วยกัน 5 ช่องทาง ซึ่งในแต่ละช่องทางนั้น สามารถกำหนดลูกค้าแตกต่างกัน เช่น การทำ PPC (Pay Per Click – การลงโฆษณากับ Search Engine) ดีสำหรับเป้าหมายในระยะสั้น ขณะที่ SEO (Search engine optimization – กระบวนการที่พยายามเพิ่ม Traffic ที่มีคุณภาพเข้าสู่เว็บไซต์) เหมาะสำหรับเป้าหมายระยะยาว ส่วนการโฆษณาทาง Social นั้น ดีกับเป้าหมายเพื่อเข้าถึงลูกค้า (Reach) และการโฆษณาผ่าน Email เหมาะสมกับเป้าหมายเพื่อรักษาฐานลูกค้าไว้ (Retention)
ในส่วนนี้คุณสามารถดูข้อมูลอ้างอิงในส่วนกลางของแผนภาพประกอบไปด้วย ซึ่งสอดคล้องกับส่วนรุ้งกินน้ำ เพื่อดูว่าช่องทางไหนที่เหมาะสมสำหรับเป้าหมายของคุณมากที่สุด - เมื่อกำหนดได้แล้วว่าจะเลือกใช้ช่องทางไหน ให้มาดูส่วนของตัวชี้วัดในช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า ว่าจะใช้ตัวชี้วัดใด มาวัดประสิทธิภาพของการใช้ช่องทางนั้น เช่น หากคุณใช้ Email ในการลงโฆษณา ควรดูจำนวน % ของ spam หรืออัตราการเปิดอ่านจดหมาย อัตราการคลิ๊กดูลิงค์ที่แนบไปทางจดหมาย เป็นต้น
- ในส่วนสุดท้าย ให้ระบุว่าแพลตฟอร์ม หรือส่วนไหนที่คุณจะใช้ เพื่อจะได้มุ่งเน้นลงแรง ลงทุนไปกับส่วนนั้นอย่างเต็มที่
จาก Infographic ข้างต้น เป็นแนวคิดของ Helene Hall ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตลาดดิจิตอลจากเกาะอังกฤษ โดยผู้เขียนได้กล่าวว่า นี่ยังไม่ได้เป็นแผนที่ครอบคลุมการวางกลยุทธ์ทั้งหมด และตัวชี้วัดบางส่วนอาจขาดตกบกพร่องไป ซึ่งจะมีการขยายในข้อมูลต่อไปอีกในอนาคต
แต่นี่ก็เป็นส่วนที่เราจะได้เห็นภาพรวม แนวทางการดำเนินงาน ซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้ริเริ่มวางแผนโฆษณาในการสร้างแบรนด์ หรือโปรโมตสินค้าได้อย่างดี
ที่มา : Econsultancy