Site icon Thumbsup

วิธีสร้างตัวตนบน LinkedIn สำหรับฟรีแลนซ์ที่ต้องการเป็นที่รู้จักแก่ลูกค้าให้มากขึ้น

มีผู้คนมากมายที่มองอนาคตหลังจากนี้ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหน เราจึงได้เห็นผู้ใช้งานใน LinkedIn เริ่มเข้าไปสร้างตัวตนเพื่อมองหาโอกาสใหม่ๆ หรือสร้างตัวตนว่าเป็นผู้เชี่ยวเพื่อช่วยให้ธุรกิจที่เพิ่งเข้ามาใช้งานโลกออนไลน์ ได้มีแนวทางในการปรับตัวอยู่รอดในยุควิถีใหม่

ต้องยอมรับว่าโลกออนไลน์ยุคนี้ เป็นยุคแห่งการสร้างตัวตนกันง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การเป็นนักเต้นใน TikTok การเป็นผู้เชี่ยวชาญใน Podcast หรือนักแสดงความคิดเห็นบน Clubhouse ส่วนแบรนด์ก็หันไปใช้โซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Twitter, Instagram ในการขายสินค้า เพิ่มจากช่องทางการขายส่วนตัวของตนเอง

จากจำนวนผู้ใช้งาน LinkedIn ที่มีสูงถึง 774 ล้านราย และผู้ใช้งานรายใหม่เพิ่มขึ้น 3 คนทุกวินาที จนมีการจัดอันดับผู้ใช้งานหน้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นจนได้รับการขนานนามว่า ‘ระดับการมีส่วนร่วม’ ของผู้ใช้งานสูงติดต่อกัน 5 ไตรมาส และนั่นจึงเป็นโอกาสที่ไม่ควรมองข้าม

เหล่าฟรีแลนซ์จึงควรมองหาศักยภาพใหม่ๆ ของตนเองที่มีอยู่ในการเชื่อมต่อหรือสร้างโอกาสที่จะเข้าถึงผู้คนใหม่ๆ ซึ่ง LinkedIn ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มหนึ่งที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้คุณในการแสดงตัวตนที่โดดเด่น และเชื่อมต่อกับผู้คนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดย LinkedIn เพิ่มเครื่องมือ 3 อย่างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

LinkedIn Service Page

LinkedIn ได้เพิ่มหมวด Service บนโพรไฟล์ของคนที่ทำงานแบบฟรีแลนซ์เมื่อปี 2019 เพื่อปรับปรุงคุณภาพในการค้นหาคนทำงานขององค์กรได้ดีขึ้น รวมทั้งมีการเพิ่มหมวดที่ชื่อว่า ‘Reviews’ ให้คนที่เคยทำงานร่วมกับคุณ ได้บอกต่อหรือแนะนำคุณให้แก่บริษัทใหม่ๆ ที่อยากร่วมงานกับคุณ ซึ่งบริษัทจะอ่านรีวิวเหล่านี้ได้ฟรี

วิธีการตั้งค่าเครื่องมือนี้ ในช่อง About (เกี่ยวกับคุณ) ให้ใส่ความสามารถที่คุณมีอย่างน้อย 500 ตัวอักษร เพื่อให้บริษัทสัมผัสความสามารถของคุณได้เต็มที่หรือมีข้อเสนอที่ดึงดูดใจ เช่น ฉันพร้อมทำงานจากระยะไกล ในช่องของเพิ่มสถานที่ทำงาน

LinkedIn Video Meetings

เพิ่มทางเลือกในการทำความรู้จักคุณผ่านการวิดีโอทางไกล ซึ่ง LinkedIn เปิดโอกาสให้คุณเริ่มการสนทนาทางวิดีโอจากแพลตฟอร์มและมีโอกาสสื่อสารกับลูกค้าได้ทันที จะช่วยสร้างการเชื่อมต่อและเพิ่มความน่าสนใจให้แก่แบรนด์ ซึ่งคุณสามารถเลือกการประชุมวีดีโอแบบกลุ่มได้เลย เพราะระบบรองรับการใช้งานผ่าน MS Teams และ Zoom

อย่างไรก็ตาม การที่ LinkedIn เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้ผู้ใช้งานอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตำแหน่งงานใหม่ๆ ได้อยู่ตลอดเวลาและพยายามที่จะผลักดันให้ผู้ใช้งานที่เป็นกลุ่มคนหางานได้งานที่ดีที่สุด

 

ที่มา : LinkedIn