เมื่อก่อนใครๆ ต่างก็ใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตกันถ้วนหน้า แต่พอมาวันนี้ โทรศัพท์มือถือกลายเป็นทางเลือกใหม่ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ทั้งสะดวกและรวดเร็วจนเป็นกระแสมาแรงและบูมสุดๆ
การสำรวจของเว็บไซต์ Kissmetrics.com พบว่าสถิติการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปี 2012 ที่ผ่านมา การใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (Desktop) ยังคงมีสัดส่วนนำโด่งมาเป็นอันดับ 1 (79.8%) รองลงมาเป็นโทรศัพท์มือถือ (14.6%) และแท็บเล็ต (5.6%) ซึ่งการคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะส่วนใหญ่เป็นการใช้งานจากระบบปฏิบัติการ Windows (85%) ส่วนในกลุ่มโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตยังคงเป็นระบบปฏิบัติการ iOS ที่ได้รับความนิยมมาเป็นที่ 1 โดยในโทรศัพท์มือถือมีจำนวนอยู่ที่ 72% และแท็บเล็ต 95%
สำหรับในปีนี้ (2013) มีการประเมินว่าโทรศัพท์มือถือจะกลายเป็นช่องทางใหม่ที่เข้ามาแทนที่การใช้งานบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในแบบเดิมๆ คาดว่าจำนวนการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือจะอยู่ที่ 1,820 ล้านคน แซงหน้าผู้ใช้งานบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่ครองตำแหน่งอันดับ 1 มาหลายปีซ้อนอยู่กว่า 40 ล้านคน (1,780 ล้านคน)
สิ่งที่ช่วยยืนยันถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เปลี่ยนแปลงได้ดีคือจำนวนผู้ซื้อสินค้าและยอดการซื้อสินค้าผ่านโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในช่วง Black Friday ของสหรัฐฯ เมื่อปลายปีที่ 2012 ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากในช่วงเดียวกันของปี 2011 ถึง 166% นอกจากนี้ยังมียอดการซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้น 40% และเม็ดเงินหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นอีกกว่า 190% ด้วยเช่นกัน
ผลจากการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างชัดเจนนี้เอง ทำให้ธุรกิจหลายประเภทต้องปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มการใช้งานอินเทอร์เน็ตในยุคดิจิตอลให้มีความเหมาะสมและสามารถรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือเพิ่มมากขึ้น
หนึ่งในการปรับตัวที่โพลทุกสำนักย้ำกันหนักหนาคือการออกแบบเว็บไซต์ให้เป็นมิตร (Website Friendly) เพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือมากขึ้น เนื่องจากเมื่อเว็บไซต์เป็นมิตร การใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือก็จะสะดวก รวดเร็วและใช้งานง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่กำลังมองหาอยู่ในยุคนี้
นอกเหนือจากการมี Website Friendly จะช่วยเสริมในการทำธุรกิจแล้ว การโฆษณาบนโทรศัพท์มือถือที่ดึงเอาตัวช่วยอย่างการใส่สถานที่ (Location) หรือชื่อเมือง (City Name) มาใช้ก็จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและช่วยเพิ่มยอดการคลิกเข้าไปชม (CTR/ Click Through Rate) ได้มากกว่าแบบปกติถึง 200%
ข้อมูลทั้งหมดแสดงให้เห็นความนิยมของการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังหมายถึงเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่จะเกิดขึ้นผ่านการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือที่จะตามมาด้วยเช่นกัน
ที่มา: Kissmetrics