โลกอีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นทุกปี มูลค่าการซื้อขายขยับตัวสูงขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด คำถามที่ทุกคนอยากรู้คือชาวโลกใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการช็อปปิ้งอย่างไร บทความนี้สรุปคำตอบไว้ให้แล้วพร้อมกับสัดส่วน 5 หมวดสินค้าที่นักช็อปออนไลน์คลิกซื้อมากที่สุด
ตั้งแต่รูปแบบการซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์กำเนิดขึ้นในปี 1979 หรือเมื่อ 34 ปีที่แล้ว การซื้อสินค้าออนไลน์ก็เริ่มเป็นที่ยอมรับและกลายมาเป็นทางเลือกใหม่ในการซื้อสินค้าของผู้บริโภคในปัจจุบัน ตลาด E-commerce ในวันนี้จึงถูกจับตามองจากกลุ่มนักธุรกิจเป็นจำนวนมาก เพื่อใช้เป็นช่องทางในการซื้อขายสินค้าที่นับได้ว่าทรงอิทธิพลและยิ่งใหญ่ระดับโลก
ผลสำรวจของเว็บไซต์ Wickedcouchers.co.uk ระบุว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ในหลายประเทศเริ่มหันมาซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันจำนวนผู้ซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ในแต่ละทวีปทั่วโลกมีจำนวนมากกว่า 80% ขึ้นไป ยกเว้นแต่ในทวีปแอฟริกาที่มีจำนวนผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ตามหลังมาเป็นอันดับสุดท้าย โดยมีจำนวนผู้ซื้อสินค้าออนไลน์เพียงแค่ 53% เท่านั้น ซึ่งทิ้งห่างจากอันดับ 1 อย่างเอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ที่มีจำนวนผู้ซื้อสินค้าออนไลน์รวมกันสูงสุดเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 87%
การสำรวจพบว่า สินค้าที่ได้รับความรับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรกในกลุ่มผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ทั่วโลก คือ สินค้าประเภทหนังสือ (44%) รองลงมาเป็นสินค้าประเภทเสื้อผ้า (36%) ตั๋วเครื่องบิน (32%) เครื่องใช้ไฟฟ้า (27%) และการจองที่พักออนไลน์ (26%)
ตามความคาดหมาย ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์ของคนยุคนี้ คือโซเชียลมีเดีย ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในเวลานี้ทั้ง Facebook หรือ Twitter การสำรวจพบว่าโซเชียลมีเดียเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคสูงถึง 90% ซึ่งในปี 2015 มีการประเมินว่ายอดขายสินค้าในโลกโซเชียลคอมเมิร์ซจะสูงถึง 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ข้อมูลทั้งหมดพิสูจน์ให้เห็นว่า E-Commerce ยังคงเติบโตต่อเนื่อง อัตราการเติบโตของยอดขายสินค้าผ่านทางออนไลน์รวมกันทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 19% ต่อปี ซึ่งในอนาคตมีการประเมินว่า ยอดขายสินค้าที่มาจากการซื้อขายออนไลน์ทั่วโลกจะทำสถิติเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมราว 5.7 พันล้านเหรียญสหรัฐเป็นจำนวนกว่า 1.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
ที่มา: Visual.ly