Site icon Thumbsup

Publisher ระดับโลกแชร์ประสบการณ์รับมือวิกฤติ Ad Blocker

เพราะรายได้ของ Digital Publisher มาจากการขายโฆษณาถึง  85% จึงไม่แปลกที่ Ad Blocker จะเป็นปัญหาใหญ่ของธุรกิจ และจริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องที่จะต้องคิดร่วมกันทั้งโครงสร้างของอุตสาหกรรมโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นนักโฆษณา เอเยนซี่ เทคโนโลยีด้านการโฆษณา และตัว Publisher

เมื่อเป็นเช่นนั้น Digiday ก็เลยจัดอีเวนท์ที่เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมารวมตัวกันพูดคุยเรื่องนี้ โดยหลักๆ แล้วก็จะเป็นการแชร์ประสบการณ์จาก Publisher ใหญ่ๆ เกี่ยวกับวิธีรับมือ Ad Blocker และสรุปออกมาเป็นบทความนี้

Forbes

ผู้อ่าน 13% ของ Forbes ติดตั้ง Ad Blocker และทาง Forbes ก็เริ่มมีแผนงานรับมือกับปรากฏการณ์นี้ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา  โดยเป็นการปิดกั้นเนื้อหาบางส่วนสำหรับผู้ใช้งานที่ติดตั้ง Ad Block ซึ่งก็ถือว่าเป็นวิธีที่ได้ผล เพราะ 44% ของผู้อ่านกลุ่มนั้นยอมปิด Ad Block

Forbes เปิดเผยว่าผู้อ่านกลุ่มนี้ใช้เวลาบนหน้าเว็บมากกว่ากลุ่มผู้ใช้งานที่ไม่ได้ติดตั้ง Ab Block และได้เห็นโฆษณามากกว่า สำหรับแผนต่อไปคือการทดสอบหน้าเว็บที่ออกแบบภายใต้คอนเซปต์  Ad-light experience

The Huffington Post

เป็น Publisher ที่มีพาร์ทเนอร์อยู่ทั่วโลก จึงมีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับทีมอื่นๆ อยู่เสมอ วิธีการรับมือ Ad Block  ของ HuffPost  โดยหลักๆ แล้วจะเป็นการกำจัดเหตุผลที่ทำให้คนติดตั้ง Ad Block ทิ้งไป และโฟกัสไปที่ประสบการณ์ที่ผู้อ่านจะได้สัมผัสกับโฆษณาบนหน้าเว็บ

นั่นหมายความว่าการทำ Native Ad คือเรื่องสำคัญของ Publisher รายนี้ ซึ่งก็จะถูกเขียนด้วยสำนวนแบบงานเขียน ไม่ใช่เขียนแบบงานขาย

ตัวแทนของ HuffPost บอกว่า “จริงๆ แล้วผู้บริโภคของเราไม่ได้อยากจะใช้ data หรือต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวเพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น มันเป็นความเข้าใจผิดๆ อย่างหนึ่งของโลกการโฆษณา”

Slate

จากจำนวนแฟนๆ ที่ติดตั้ง Ad Block ถึง 16% ทำให้ Slate สูญเสียรายได้ไปถึง 8% สิ่งที่พวกเขาทำคือส่งข้อความไปยังผู้ที่ติดตั้ง Add Block เพื่อขอให้ปิดมัน หรือสมัครเป็นเมมเบอร์แบบพรีเมียม ซึ่งก็เป็นวิธีที่ช่วยได้นิดหน่อยเท่านั้น

วิธีต่อมาคือการกำจัดโฆษณาที่สร้างความรำคาญบนหน้าเว็บ และภายใน 6 เดือนนี้ ก็จะมีการขอให้ผู้อ่านปิดตัวบล็อกโฆษณาเพื่อที่จะยกระดับประสบการณ์ในการรับโฆษณาของผู้อ่าน

SpanishDict

SpanishDict เป็นเว็บที่ใช้ระบบวางโฆษณาแบบ Programmatic ดังนั้นจึงมีโฆษณาที่รบกวนสายตาและดูน่ารำคาญอยู่มาก ทางทีมงานคาดว่าจะมีผู้ใช้งานติดตั้ง Ad Block อยู่ราวๆ 12%

เดือนกันยายนที่ผ่านมา SpanishDict เปิดตัวเครื่องมือที่เอาไว้รวบรวมฟิดแบ็กเกี่ยวกับโฆษณาจากผู้อ่าน ซึ่งสามารถใช้เพื่อปิดโฆษณาได้ ไม่กี่วันหลังจากเปิดให้ใช้เครื่องมือดังกล่าว ทีมก็ได้รับความคิดเห็นมากกว่า 400 ข้อความ ซึ่งโดยมากแล้วก็จะพูดถึงโฆษณาในรูปแบบวิดีโอที่เล่นแบบอัตโนมัติ

ตัวแทนของ SpanishDict ระบุว่า เมื่อเลือกที่จะใช้ Programmatic ก็เท่ากับว่าเลือกที่จะไม่กำหนดมัน และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทีมไม่สามารถทำได้อยู่แล้ว แต่ควรจะถามผู้อ่านว่าเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อทำให้พวกเขาได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น

Bloomberg

มีการปรับปรุงระบบเพื่อพัฒนาประสบการณ์รับชมโฆษณาของผู้อ่านเป็นบางครั้ง และในตอนนี้กำลังโฟกัสกับเรื่อง Ad Block อย่างจริงจัง ซึ่งหมายถึงการโฆษณาในรูปแบบคลีนๆ บนพื้นสีขาวโล่งๆ พยายามใช้ภาพเคลื่อนไหวให้น้อยลง และใช้ตัวพิมพ์เล็ก เพื่อให้รู้สึกเหมือนการพูดคุย ไม่ใช่ตะโกนใส่ผู้อ่าน

วิธีวัดความสำเร็จในการโฆษณาของ Bloomberg คือการมอนิเตอร์เวลาที่ผู้อ่านใช้กับหน้าเว็บ ยอดการดาวน์โหลด White paper และยอดรีทวิตโฆษณา

ตัวแทนของ Bloomberg บอกว่า “เมื่อใครๆ ก็พยายามแย่งความสนใจด้วยการตะโกนใส่ผู้อ่าน เราเลยลองทำในสิ่งที่ต่างออกไป”