ปี 2014 เป็นปีที่กระแสฟุตบอลโลกหรือเกมการแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนั้นมาแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโลกออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะได้ยินเสียงเชียร์ของชัยชนะ หรือเสียงคร่ำคราญจากการพ่ายแพ้ในทีมที่ชื่นชอบไม่ว่าจะรับชมเกมกีฬานี้จากที่ใดก็ตาม และในปีนี้มีความแตกต่างบนโลกออนไลน์อย่างมากเมื่อเทียบกับฟุตบอลโลกเมื่อปี 2010 ที่จัดที่แอฟริกาใต้
มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เกิดการเปลี่ยนแปลง :
การเติบโตของจำนวนผู้ชมฟุตบอลโลก
ผู้ชมทั้งหมดที่รับชมฟุตบอลโลกนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ค่าเฉลี่ยการรับชมต่อการแข่งขันทั้ง ESPN (สถานีของอเมริกาที่แพร่ภาพรายการกีฬาตลอด 24 ชั่วโมง), ESPN2 และ ABC ในการแข่งขัน 32 นัดแรกมีค่าเฉลี่ยผู้รับชมอยู่ที่ 4.3 ล้าน โดย 2.6% มาจากการรับชมผ่านทางโทรทัศน์ในอเมริกา เติบโตขึ้นมากกว่าปี 2010 ถึง 50% นอกเหนือจากทางทีวีแล้ว ยังมีผู้ชมทางออนไลน์ด้วยการเจริญเติบโตถึง 37% และมีค่าเฉลี่ยของผู้รับชมอยู่ที่ 783,000 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 489,000 ของปี 2010 เลยทีเดียว แถมยังมีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของผู้รับชมผ่านทางมือถือ ที่ทำการเข้าสู่ระบบ mobile app ในแต่ละวันเพิ่มขึ้นกว่า 400% เมื่อเทียบกับปี 2010
การเพิ่มขึ้นของโซเชียลมีเดีย
ในปี 2010 เครือข่ายสังคมชั้นนำบนโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และ Twitter นั้นมีความแตกต่างกันในแต่ละประเทศ รวมถึงจำนวนผู้ใช้ โดยทาง Facebook มีผู้ใช้งานรายเดือนอยู่ที่ 500 ล้าน ส่วน Twitter มีอยู่ 200 ล้าน สำหรับ Instagram นั้นยังไม่ได้เปิดตัวจนกระทั่งเดือนตุลาคม ปี 2010 และอีก 4 ปีต่อมา พบว่า Facebook ได้มีผู้ใช้ทะลุหนึ่งพันสองร้อยล้านไปแล้ว ส่วน Twitter ก็มีถึง 255 ล้านผู้ใช้ และ 78% ใช้งานผ่านมือถือ นำไปสู่เครือข่ายที่ยิ่งใหญ่บนโลกออนไลน์
แนวโน้มที่ดีของการกีฬาบนโลกโซเชียล
การเติบโตของโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่น่าประทับใจ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือโลกหันมาใช้แพลตฟอร์มทางโซเชียลเหล่านี้ในการแบ่งปันข้อมูลข่าวสาร รวมถึงเกมกีฬานี้ด้วย ในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ กว่า 141 ล้านคนได้โพสต์โต้ตอบกันว่า 459 ล้าน actions (เช่น Like, comment, share) บน Facebook ซึ่งมากกว่ากีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 2012, Super Bowl 2014 และงานประกาศรางวัลออสการ์ 2014 เสียอีก
Twitter ยังได้รายงานว่ามีการทวีตเกี่ยวกับฟุตบอลโลก 2014 ก่อนการแข่งขันจะเริ่มจริง มากกว่าช่วงเวลาการแข่งขันทั้งหมดเมื่อปี 2010 เสียอีก และแฟนเพจของ FIFA บน Facebook ก็มีผู้กด Like 33 ล้านคนแล้ว โดยเพิ่มขึ้น 8 เท่าในระยะเวลาเพียง 6 เดือน
พลังที่ยิ่งใหญ่ของ Real-time
การมีส่วนร่วมของผู้ชมได้เกิดขึ้นอย่าง Real-time สามารถติดตามข่าวสารที่น่าสนใจทั่วโลกจากการทวีตในรูปแบบต่างๆ ได้ที่ @TwitterData และอีกสถิติที่น่าจับตามองคือ TPS หรือการทวีตต่อวินาทีนั้น ในปี 2010 มีการทวีตสูงสุดหลังจากสเปนเป็นแชมป์โลกที่ชนะการแข่งขันในรอบสุดท้ายด้วยตัวเลขทวีต 3,051 ต่อวินาที แต่ปัจจุบันมีตัวเลขที่ทำลายสถิตินั้นแล้วคือ 5,077 ทวีตต่อวินาทีหลังการแข่งขันระหว่างอเมริกากับโปรตุเกส แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ตัวเลขที่สูงสุดอย่างแน่นอน ซึ่งเราต้องคอยจับตาต่อไปจนถึงวันชิงแชมป์ที่หนึ่งของการแข่งขัน
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกออนไลน์ที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในระยะเวลาเพียงแค่ 4 ปี
ที่มา : The Next Web