ไม่ใช่จีน ไม่ใช่สหรัฐอเมริกา แต่เป็นอินเดียที่มีสัดส่วนเม็ดเงินช็อปออนไลน์มากที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับรายได้ Disposable Income (รายได้หลังหักภาษี) ของประชาชนในประเทศ แถมมีประเทศม้ามืดอย่างบราซิลติดอันดับ 5 แรกด้วย
การสำรวจของเว็บไซต์ Doba.com นี้น่าสนใจมากในมุมมองของนักการตลาดดิจิตอล เพราะมีการหยิบรายได้ Disposable Income หรือรายได้หลังหักภาษีเงินได้ส่วนบุคคล ซึ่งเป็นรายได้ที่แสดงถึงอำนาจซื้อและการออมของประชาชน มาคำนวณว่าประชาชนในประเทศไหน มีสัดส่วนการซื้อสินค้าออนไลน์มากที่สุดเมื่อเทียบกับรายได้ส่วนนี้
ปรากฏว่าในช่วงปี 2012 ที่ผ่านมาพบว่า 5 อันดับแรกของประเทศที่มียอดการซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์สูงสุดในโลก ได้แก่ อันดับที่ 1 อินเดีย ซึ่งมีสัดส่วนการซื้อสินค้าออนไลน์สูงเฉลี่ยถึง 33% ของรายได้ Disposable Income ในประเทศ รองลงมาเป็นจีน (31%) บราซิล (27%) อังกฤษ (25%) และสหรัฐฯ (23%)
การสำรวจพบว่าช่วงเวลาที่มีการซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์สูงสุด คือ ช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน (33%) ตามมาด้วยช่วงเวลาประมาณเที่ยงวันถึง 6 โมงเย็น (30%), 6 โมงเช้าถึงเที่ยง (16%) และเที่ยงคืนถึง 6 โมงเช้า (10%)
การซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ในแต่ละครั้งพบว่าสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสนใจและมักมีการตรวจสอบอย่างละเอียด คือ ระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลทางการเงินในการชำระเงินและการรับประกันในการส่งสินค้า ซึ่งผลการสำรวจพบว่า ปลอดภัยของข้อมูลทางการเงินเป็นส่วนสำคัญที่มีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ซึ่งหากธุรกิจมีการพัฒนาถึงระบบความปลอดภัยในการชำระเงิน รวมถึงมีระบบการป้องกันข้อมูลส่วนตัวและมีการระบุกำหนดส่งสินค้าที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ก็จะส่งผลทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการในการซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น
ส่วนเหตุผลสำคัญซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจไม่ซื้อสินค้าของผู้บริโภคมากที่สุด คือ สาเหตุเกี่ยวกับเรื่องของ “ราคา” เช่นพบว่ามีแบรนด์มีการบวกค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติมและร้านอื่นมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า รวมถึง “ปัญหาในการใช้งานเว็บไซต์” ที่พบว่ามีขั้นตอนในการซื้อสินค้าซึ่งมีความยุ่งยากซับซ้อนมากเกินไป
นอกจากนี้ทาง Doba.com ยังได้ทำการสำรวจถึงพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ของผู้บริโภคชาวอเมริกัน โดยผลปรากฏว่า สินค้าประเภทค้าปลีก เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในการซื้อผ่านทางออนไลน์มากที่สุด ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 42% รองลงมาเป็นเสื้อผ้า (32%) และหนังสือ (22%) ส่วนรูปแบบการชำระเงินพบว่า ชาวอเมริกันนิยมจ่ายผ่านบัตรเครดิตมากสูงถึง 76% ตามมาด้วย Paypal (54%) และบัตรเดบิต (50%)
ส่วนช่องทางที่เข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ในการซื้อสินค้าออนไลน์ของชาวอเมริกันที่กำลังมาแรงที่สุดในเวลานี้ก็คงหนีไม่พ้น “การซื้อสินค้าผ่านอุปกรณ์เคลื่อน” ที่ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต ซึ่งจากผลสำรวจพบว่า มีจำนวนของชาวอเมริกันที่ซื้อสินค้าบนอุปกรณ์เคลื่อนที่คิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่ทั้งหมด โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมในการซื้อผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่มากที่สุดเป็น 3 อันดับแรก ประกอบด้วย เสื้อผ้า (53%) หนังสือ (46%) รวมถึงแผ่น DVDs และเกม (42%)
ที่มา: Good.is