Facebook ให้ข้อมูลมากมาย ซึ่งในครั้งแรกอาจเป็นเรื่องยากที่จะแยกแยะและใช้งานมัน แต่คุณสามารถค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องมากที่สุด สำหรับการพัฒนาการแสดงตนบน Facebook และก้าวไปสู่เป้าหมายทางธุรกิจที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
1. วิเคราะห์คู่แข่งของคุณ
ข้อมูล Facebook Insights ที่อยู่ในหน้าเพจธุรกิจ Facebook จะให้ข้อมูลมากมาย ซึ่งมีโพสต์สามประเภทที่ควรต้องกลั่นกรองเพื่อหาข้อมูลเชิงลึก: โพสต์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเดียวกัน โพสต์ของคู่แข่งและโพสต์ของคุณเอง หากไม่แน่ใจว่าใครคือคู่แข่ง โดยกลยุทธ์ที่ควรนำมาใช้ในการค้นคว้าว่าใครคือคู่แข่งคือ การค้นหาผ่าน Google โดยค้นหาคียเวิร์ดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณทำ จากนั้นดูว่าผู้ชมของคุณติดตามใคร ตรวจสอบแบรนด์อื่นๆ ที่ผู้ชมของคุณติดตามบนโซเชียลมีเดียและสังเกตแบรนด์ที่คล้ายกับบริษัทของคุณมากที่สุด
วิเคราะห์สิ่งที่พวกเขากำลังทำ
เมื่อคุณระบุคู่แข่งอันดับต้นๆ ของคุณได้แล้ว เลือกคู่แข่ง 3-5 อันดับแรกเพื่อเปรียบเทียบ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขา รวมถึงโซเชียลมีเดียที่พวกเขาใช้ จำนวนการติดตาม ปริมาณการโพสต์โดยรวม ความถี่ในการโพสต์ และจำนวนการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้ของพวกเขาเป็นอย่างไร
2. รวบรวมข้อมูลของคุณ
เมื่อคุณมีเกณฑ์มาตรฐานและแนวคิดว่าคู่แข่งของคุณกำลังทำอะไรอยู่แล้ว ก็ถึงเวลาทบทวนตัวแบรนด์เอง ในขั้นตอนนี้คุณจะต้องดึงข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณผ่าน Facebook Insights เพียงไปที่ตัวจัดการเพจ Facebook แล้วคลิกข้อมูลเชิงลึก ช่วงข้อมูลเริ่มต้นที่แสดงบน Facebook Insights คือ 28 วัน แต่คุณสามารถสลับให้เหมาะกับความต้องการของคุณได้ หากคุณต้องการดาวน์โหลดข้อมูลเพื่อวิเคราะห์หรือจัดการจากแพลตฟอร์ม Facebook ให้คลิกที่แท็บภาพรวม จากนั้นไปที่ส่งออกข้อมูล จะมีป๊อปอัปแสดงประเภทข้อมูลสามประเภทที่คุณสามารถใช้ได้: ข้อมูลเพจ ข้อมูลโพสต์ และข้อมูลวิดีโอ
แต่ละข้อมูลรวบรวมอะไรบ้าง
ข้อมูลเพจแสดงหน้าที่สำคัญสำหรับการมีส่วนร่วม เช่น แหล่งที่มาและรายละเอียดของผู้ชม
ข้อมูลโพสต์ให้ข้อมูลสำหรับการเข้าถึงโพสต์และความพึงพอใจ
ข้อมูลวิดีโอจะแสดงข้อมูลวิดีโอหลักของคุณ เช่น จำนวนการดู
3. วิเคราะห์ข้อมูลเพจ Facebook ของคุณ
เมื่อคุณรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว ก็ถึงเวลาเจาะลึกตัวเลข ทางที่ดีควรแบ่งสิ่งนี้ออกเป็นสองส่วน อันดับแรก เราจะดูที่ตัวชี้วัดหน้าเพจ จากนั้นก็วิเคราะห์ประสิทธิภาพแต่ละรายการ
ก่อนที่จะทำความเข้าใจข้อมูลทั้งหมดนี้ คุณควรกำหนดตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพหลัก (KPI) ที่สำคัญต่อธุรกิจของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังใช้เพจ Facebook ของคุณเพื่อกระตุ้นการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ KPI ของคุณอาจเกี่ยวข้องกับการคลิกลิงก์ หากคุณมุ่งเน้นที่การสร้างชุมชน ให้กำหนด KPI สำหรับสถิติการมีส่วนร่วม
4. ใช้ข้อมูลอย่างถูกต้อง
ตอนนี้คุณมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการตีความข้อมูลอย่างถูกต้องแล้ว ใช้คำถามเหล่านี้เพื่อช่วยแนะนำการวิเคราะห์ Facebook ของคุณ เพราะเหตุผลหลักในการวิเคราะห์ Facebook คือการค้นหาว่าเนื้อหาใดของคุณทำงานได้ดีที่สุด จากนั้นใช้ความรู้นั้นเพื่อเป็นแนวทางในกลยุทธ์การเขียนโฆษณาของคุณ
ที่มา : sproutsocial.com