วันนี้ผมอาจจะเขียนเรื่องที่มันห่างจากความเป็นดิจิทัลไปสักหน่อยนะครับ แต่ก็คิดว่ามันมีคุณค่ามากพอ โดยเฉพาะใครที่เป็นคน tech startup กรุณาอย่าได้มาปฎิเสธผมเลยว่าทำเว็บทำแอปแล้วไม่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ เพราะสร้างผลิตภัณฑ์ขึ้นมา อย่างน้อยๆ ต่อไปก็ต้องรุกระดับอาเซียน หรือจะเถียง?!
“startup ไทยเก่งหลายอย่างนะ พี่เห็นความคิดสร้างสรรค์เขาก็ดี แต่ชอบมาตายน้ำตื้นเพราะ pitch ภาษาอังกฤษไม่คล่อง ติดต่อสื่อสารกับต่างชาติไม่ลื่น ทำให้เราเสียโอกาสหลายๆ อย่าง”
นี่คือคำพูดของผู้บริหารบรรษัทเงินทุนข้ามชาติชื่อดังรายหนึ่ง เรียกว่าฟังแล้วออกอาการ ‘กระเทือนซาง’ กันไม่น้อยเลยล่ะครับ เพราะมันเป็นเรื่องพื้นฐานที่ startup ชาติอื่นเขาไม่นับเป็นปัญหากัน มีพี่ไทยและอีกไม่กี่ประเทศนี่ล่ะที่มีปัญหานี้เป็นปัญหาหลัก… แล้วเราจะทำอย่างไร? ฟังแล้วเราก็ไม่อยากแค่บ่น แต่เราต้องหา solution ให้กับ startup ไทย (ซึ่งหายากมาก)
เราจึงเริ่มหาคำตอบทำไม startup ไทยถึงอ่อนอังกฤษ เราจึงพบว่า…
1. ระบบการศึกษาบ้านเรามักจะเน้นให้เราเรียนภาษาอังกฤษแบบเน้นแกรมม่าแน่นปึ้กก่อน ข้อดีคือเราเขียนเก่งมากครับ แต่พอให้พูดฟังและคุยสื่อสารกับเจ้าของภาษาจริงๆ มักจะเดี้ยง บางคนเวลาเจอฝรั่งถามทางก็ออกอาการแกล้งทำเป็นไม่สนใจ หรือไม่ก็ทำภาษามือโบกใบ้กันจนเข้าใจ!
2. เราฟังไม่ออกก็เลยพูดไม่ได้ ถึงเราจะภูมิใจได้ว่าเราไม่เคยเป็นเมืองขึ้นใคร ภาษาอังกฤษไม่ได้สำคัญมากขนาดนั้น ด้วยทัศนคติดนี้เลยทำให้เราเริ่มเรียนภาษาอังกฤษกันช้า แต่ตอนนี้ความเป็นจริงมันไม่ใช่แล้ว(โว้ย) เราอยู่ในยุค Globalization ที่อะไรๆ ก็สื่อสารกันได้แบบ real-time ถ้าอังกฤษไม่ได้ จีนไม่ได้ ต่อไประบบความสามารถในการแข่งขันมันจะลดลง
ด้วย 2 สาเหตุนี้ พวกเรา thumbsup จึงพยายามติดต่อกับสถาบันสอนภาษาอังกฤษหลายๆ แห่งว่า ตอนนี้ชาว startup ไทยมีปัญหาเรื่องนี้ ถ้าหากว่าเราไม่สามารถพัฒนาทักษะภาษาของชาว startup ไทยได้ ก็ยากนักที่เราจะไปแข่งขันกับชาวบ้านทั่วโลกได้ จะทำอย่างไรได้บ้าง สถาบันภาษาต่างๆ ก็น่ารักครับ เขาเสนอหลักสูตรประเภท สนทนาเป็นภายใน x ชั่วโมง หรือไม่ก็หลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ มาให้เราโปรโมทและลองเชิญ thumbsupers มาเรียนดู
แต่บอกตรงๆ เราดูแล้ว เราก็ยังไม่เชื่อว่ามันจะดีพอสำหรับ tech startup ไทย
จนวันหนึ่งส่วนตัวผมมีโอกาสไปเรียนศาสตร์เกี่ยวกับ NLP (Neuro-Linguistic Programming) ซึ่งเป็นเทคนิคการจัดพฤติกรรมของสมองและจิตใต้สำนึก โดยใช้ชุดภาษาพูดและทางกาย เพื่อช่วยให้บุคคลแปลความสิ่งที่มากระทบใหม่แล้วตอบสนองเป็นพฤติกรรมใหม่ที่ดีและเป็นประโยชน์กับชีวิต และไปเจอกับ ดร. ขวัญนภา ชูแสง (ครูขวัญ)
จึงได้รู้ว่าจริงๆ ครูขวัญที่สอน NLP ผมอยู่นี้เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งสถาบันภาษา Boston Bright และเธอมีวิธีการสอนแบบที่แปลกและแตกต่างไปจากคอร์สภาษาอังกฤษทั่วไปตรงที่ เธอไม่ได้มาเน้นสอนเรื่องแกรมม่า แต่เธอสอนเทคนิคการฟังและการพูดภาษาอังกฤษที่สามารถทำให้ฟังออกใน 10 นาที พูดได้ภายใน 6 ชั่วโมงด้วยเทคนิคพิเศษแบบก้าวกระโดด
เราจึงไม่รอช้าที่จะใช้โอกาสนี้ในการเชื้อเชิญเธอมาร่วม transform ชาว tech startup ไทยไปด้วยกันกับเรา
วันนี้ผมจึงขอเชื้อเชิญให้คุณลองมาทำความรู้จักกับคอร์ส Magic English for Thai Tech Startup โดย thumbsup โดยส่วนตัวแล้วผมตื่นเต้นกับคอร์สนี้มากๆ ตรงที่ ผมคาดหวังว่ามันจะ “transform” ชาว tech startup ไทยให้มีความสามารถในการแข่งขันกับชาวต่างชาติทั่วโลกได้ พร้อมๆ กันก่อนที่จะเปิด AEC และท้ายที่สุดก็จะยังประโยชน์กลับมาที่ธุรกิจของคุณในที่สุด
เจอกันที่ห้องเรียนนะครับ