Twitter เป็นอีกแพลตฟอร์มที่ Micro Influencer อยู่เยอะมาก รวมถึงเป็นแหล่งแห่งการป้ายยาสินค้าชั้นดีเป็นอันดับต้นๆ นักการตลาดจึงเริ่มหันมาใช้ Twitter เป็นตัวสร้างอิมแพ็คให้กับสินค้า
ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ที่มักจะเป็นจำพวกสินค้า FMCG เช่น ผลิตภัณฑ์รีดผ้าเรียบ น้ำหอม ขนมขบเคี้ยวต่างๆ อีกทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้การ Seeding กลับมาบูมอีกครั้ง แต่ก็ยังโดนจับได้เหมือนเดิม
แล้วเราต้องรีวิวสินค้าบน Twitter ยังไงล่ะ ไม่ให้ถูกจับได้ (ถ้าคิดจะ Tie in) หรือให้ได้รับความสนใจ มาดูวิธีเบื้องต้นกันค่ะ
ธรรมชาติของ Twitter
ตามธรรมชาติของ Twitter ส่วนใหญ่คนจะพูดความจริง ไม่ค่อยมีการ Tie in เท่าไหร่ และเพราะความจริงส่วนนี้นี่เองที่ทำให้นักการตลาดเริ่มกันมาเล่นแพลตฟอร์ม Twitter มากขึ้น จนตอนนี้แอคเคาท์ดังๆ หลายแอคเริ่มหันมารีวิวสินค้ากันแล้ว
แต่ก็นั่นแหละค่ะเพราะธรรมชาติของแพลตฟอร์มนี้จะค่อนข้างสมจริง การรีวิวส่วนใหญ่จึงเป็นการ Tie in ที่แทบจะไม่เนียนเท่าไหร่ ยิ่งช่วงปั่นแฮชแท็ก จะพบว่าความไม่เนียนหลายอย่างทำให้แอคนั้นหมดความเชื่อถือโดยง่ายไปเลย การรีวิวจึงควรพูดความจริง เพราะความจริงคือสิ่งที่ดีที่สุดบน Twitter
ใช้จริงค่อยมารีวิว
อย่างแรกที่จะทำให้การรีวิวสมจริงมากที่สุด นั่นก็คือการพูดจากการใช้จริงนั่นเอง เพราะเราจะสัมผัสได้ถึงรูป รส กลิ่น เสียง หรือทุกสัมผัส ที่สินค้าชนิดนั้นมอบให้ได้ เช่น “โยเกิร์ตออกใหม่จาก Meji หอมกลิ่นองุ่นมากกกกกก หอมจนเหมือนกินองุ่นจริงๆ เลย แล้วเนื้อคือแน่นคัพถ้วยเว่อร์ เราชอบเมจิก็ตรงนี้แหละไม่ค่อยหวงของ แนะนำเลยซื้อได้ที่เซเว่นนะจ๊ะ“
สังเกตว่าข้อความมีความสมจริง เพราะสิ่งที่รีวิวคือความจริงหลังจากกินมาแล้ว แต่ถ้าทำแค่อัพภาพสวยๆ บอกว่า Meji ออกรสชาติโยเกิร์ตใหม่ รสองุ่น เนื้อนุ่มวุ้นแน่นสุดๆ เนื้อวุ้นหอมอร่อยมาก หาซื้อได้ที่เซเว่นอีเลเว่น
เห็นได้ว่าภาษาในการรีวิว จะเข้าถึงความรู้สึกคนอ่านต่างกัน ฉะนั้นการได้ใช้จริงจะช่วยให้การรีวิวสมจริงมากจริง หรือจะติดแฮชแท็กสุดคลาสสิคอย่าง #รีวิวห้ามขายของโว้ยยย #รีวิวเซเว่น ก็ช่วยให้สมจริงขึ้นได้
อะไรไม่ใช่ก็อย่าฝืน
คำว่าฝืนนี้เรียกอีกคำว่า “แถ” นั่นเอง ถ้าใครได้ติดตาม Twitter ช่วงปั่นแฮชแท็กของแบรนด์บ่อยๆ จะพบว่ามีแอคดังๆ หลายแอคมักหาความเชื่อมโยงระหว่างสินค้ากับแฮชแท็กนั้นจนรู้สึกฝืน แอคที่เราเคยตาม เพราะชอบตัวตนของเค้ากลายเป็นมาโกหกกันซะได้
ดังกรณีที่โยเกิร์ตชื่อดังใช้ Micro Influencer แทบจะทั้งแพลตฟอร์มให้รีวิวโยเกิร์ตว่ากินกับอะไรก็อร่อย แอคนึงจึงเลือกกินโยเกิร์ตกับปูดอง เพราะช่วยตัดเลี่ยนได้ดี คำถามคือปกติคนกินโยเกิร์ตกับปูดองหรือเปล่า คำตอบคือไม่ มันคือการฝืนที่ไปด้วยกันไม่ได้ เพียงเพราะอยากสร้างจุดเด่น เลยหยิบปูดองที่ทุกคนให้ความสนใจมาบวกกับสินค้าที่ได้รับการรีวิว
ความเข้ากันไม่ได้นี้ทำให้ทวิตนี้ถูก Quote ไปกล่าวว่าเสียหายค่อนข้างเยอะ ส่งผลไม่ดีต่อแบรนด์อีก ฉะนั้นทุกอย่างควรเป็นไปตามธรรมชาติ โยเกิร์ตกินกับกล้วย เอามาทำสลัด จะดีกว่า
อย่าโกหกกันเลย
สิ่งที่โดนจับโป๊ะได้บ่อยที่สุดคือ “บังเอิญเจอ” เห็นลดราคาเลยซื้อมา สองคำนี้เป็นสิ่งที่ใช้กันบ่อยจนกลายเป็นไม่น่าเชื่อถือไปแล้ว ยิ่งตอนที่แบรนด์ได้ทำการโปรโมททวิตนั้น ก็ยิ่งจับได้ง่ายว่าคำว่าบังเอิญเจอไม่มีจริงไม่ เพราะแบรนด์จะโปรโมตทำไมถ้าไม่ใช่สื่อจากฝั่งตัวเอง
ฉะนั้นถือเป็นการบ้านที่แบรนด์ต้องบรีฟเหล่า Micro Influencer ใหม่ว่าให้รีวิวตามความจริงจะดีที่สุด แต่อยากให้เลี่ยงคำว่าแบรนด์ส่งมาให้อยู่ เพราะคำนี้จะถูกผ่านตาไปทันที ให้เลือกใช้ประมาณว่า ได้ลอง หรือเล่าเหตุการณ์ความรู้สึกตอนใช้เลย ไม่ต้องเกริ่นอะไรจะดีที่สุด
เช่น ลองยาสระผมสูตรใหม่เผื่อแก้ผมร่วงได้บ้าง ปรากฏหอมมากกก ผมร่วงน้อยลงเยอะแล้ว กลิ่นหอมเหมือนผมเด็กๆ เพราะมีสูตรคาโมมายด์ ไม่แรงเป็นสารเคมี ใครชอบกลิ่นเด็กๆ น่าจะชอบนะ สังเกตว่าไม่ใช้คำที่ดูฮาร์ดเซลล์ แต่ก็ยังขายของ ไม่จำเป็นต้องบอกแบรนด์เพราะถ้าสนใจยังไงไม่มีรูปแนบคนอ่านก็จะกดหาดูแบรนด์อยู่ดี
ทิ้งท้าย
Twitter เป็นแพลตฟอร์มที่คน loyalty ต่อแอคนั้นค่อนข้างน้อย เพราะว่าความไม่รู้จักกัน กับคอนเทนต์ที่สื่อออกมาเป็นเพียงข้อความเฉยๆ ทำให้ไม่ได้สร้างความเกี่ยวข้องกันมากมายเหมือนเราตาม Youtuber ทำให้เมื่อเจอแอคที่รีวิวปลอมๆ ก็จะถูก Unfollow ได้ง่าย การรีวิวตามความจริงไม่ต้องตกแต่งภาพให้สวย คือเสน่ห์ของแพลตฟอร์มนี้ที่สุดแล้ว
iPhone สมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูงสุดคุ้ม คลิกเลย