กลายเป็นกระแสที่ผู้คนสนใจสำหรับชาวเจนเบต้า (BETA) ที่กลายมาเป็นช่วงวัยต่อเนื่องจากเจนอัลฟ่า (ALPHA) ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้เกิดมาในช่วงของเทคโนโลยีที่เฟื่องฟู นั่นคือมีการทดลองและพัฒนาจนใช้งานได้ดีจากชาวเจน X และ Y มาก่อนหน้านี้ ทำให้คนกลุ่มนี้เข้าสู่ยุคของการใช้ AI-First ซึ่งไม่ใช่แค่กำลังพัฒนา AI แต่เกิดมาก็ใช้งาน AI ได้เลย
นอกจากนี้ ชาวอัลฟ่าและเบต้า ถือว่าเป็นเจนเนอเรชั่นที่มีความฉลาดในเรื่องของเทคโนโลยีอย่างแท้จริงเพราะมีพ่อแม่เป็นเจนเซนเนียลที่เข้าใจถึงความเสี่ยงของดิจิทัลฟรุตพรินต์เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ในปี 2050 ชาวเจนเบต้าที่จะเข้าสู่วัย 25 ปี กว่า 68% ที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง ที่มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับคุณภาพชีวิตและมีการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเท่าเทียม เนื่องจากมีการคาดการณ์ปริมาณของจำนวนผู้พิการในไทยจะสูงถึง 91.4 ล้านคน
ดังนั้นชาวเจนเบต้ามีแนวโน้มที่จะรับช่วงต่อโลกที่มีความหลากหลายและเชื่อมโยงกันมากกว่าที่เคยเพราะชาวเจนซีกับชาวมิลเลนเนียลจะร่วมกันทำลายอคติเก่าๆและส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการยอมรับ ทำให้ชาวเบต้าเติบโตมาในสังคมที่หลากหลายทางเชื้อชาติ เพศวิถี และการดำเนินชีวิต ซึ่งการยอมรับความแตกต่างนี้ จะไม่เพียงแต่เป็นที่ยอมรับเท่านั้นแต่ยังได้รับการยกย่องอีกด้วย
ALPHA 2010-2024
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับ Gen ALPHA
- ปัจจุบันจำนวนประชากร ALPHA มีมากถึง 2.2 พันล้านคน
- ในปี 2030 ชาว ALPHA รุ่นแรกจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ และก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงาน
- คาดว่า 65% ของ ALPHA จะทำงานในตำแหน่งที่ยังไม่มีอยู่ในปัจจุบัน
- มีเพียง 50% ของ ALPHA ที่คาดว่าจะสำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และอีกครึ่งนึงอาจจะหันไปทำงานด้านสายอาชีพมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นคงในสาขางานที่ยังทดแทนด้วยระบบอัตโนมัติไม่ได้
- ALPHA ฝันที่จะเป็นคอนเทนต์-ครีเอเตอร์และอาชีพที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ ติ๊กต็อกเกอร์ ยูทูบเบอร์ หรือวล็อกเกอร์
- ชาว ALPHA จะเป็นผู้ขับเคลื่อนธุรกิจและอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ และเลือกประกอบอาชีพที่ส่งเสริมด้านสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
- ALPHA เติบโตมาท่ามกลางภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศ และพบเจอกับเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว ทำให้พวกเขาตระหนักและเข้าใจในความท้าทายด้านสภาพอากาศมากขึ้น
- สิ่งที่น่ากังวลคือ ชาว ALPHA เพียง 28% ของเด็กอายุ 8-18 ปีที่อ่านหนังสือทุกวัน ครอบครัวจึงต้องร่วมสร้างแหล่งข้อมูลการอ่าน เพื่อลดช่องว่างทางการเรียนรู้
- แม้ว่าอายุการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างเป็นทางการคือ 13 ปี แต่ 40% ของ ALPHA เริ่มใช้งานอินเทอร์เน็ตในช่วงอายุ 8-12 ปี
- ปัจจุบัน Alphluencers กลายมาเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์ให้กับแบรนด์ต่างๆ มากมาย หลายฝ่ายจึงเริ่มกังวลและอาจจะมีการร่างกฎหมายใหม่ เพื่อปกป้องเด็กทางออนไลน์
Gen BETA
ชาวเจน X และ Y ที่มีลูกช้า เป็นไปได้ว่าผลผลิตนั้น คือเด็กๆ ที่จะกลายมาเป็นช่วงวัยนี้ เพราะเด็กอาจจะเกิด ในช่วงระหว่างปี 2025-2039 ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่จะรับช่วงต่อโลกที่ถูกหล่อหลอมขึ้นมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเบต้าคือการตั้งชื่อที่สอดคล้องกับลำดับอักษรกรีก นั่นคือ เจนอัลฟา (Alpha a) เบต้า (Beta B)
- BETA คือกลุ่มประชากรใหม่ที่เกิดขึ้น ระหว่างปี 2025-2039 ซึ่งภายในปี 2035 ชาว BETA จะมีจำนวน 16% ของประชากรโลก นับเป็นเจนที่มีจำนวนน้อยที่สุด
- ชาว BETA ให้ความสำคัญกับ AI ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่กำหนดรูปแบบการใช้ชีวิตการเรียนรู้ การเล่น และการทำงานของพวกเขา เพราะเกิดมาในยุคของ Al-First ดังนั้นในปี 2026 กว่า 90% ของเนื้อหาบนโลกออนไลน์ทั้งหมด สามารถสร้างขึ้นโดย AI
- ชาว BETA ชอบงานอดิเรกอย่าง การเล่นกีฬากลางแจ้งมากกว่ามองจอ หรือออกไปสัมผัสชีวิตและบรรยากาศจริงมากกว่า เพราะต้องการหลีกหนีจากโลกดิจิทัล
- ชาว BETA ที่เติบโตขึ้นมาในสังคมที่ความหลากหลายทางเชื้อชาติ เพศวิถีในการดำเนินชีวิต รวมทั้งยอมรับความแตกต่างที่ไม่ใช่แค่การยอมรับแบบทั่วไป แต่ยังได้รับการยกย่องอีกด้วย
- ในปี 2050 คือปีที่ ชาว BETA รุ่นแรกจะเข้าสู่วัยเบญจเพสดังนั้นพวกเขาจะมุ่งส่งเสริมความเสมอภาคและความยุติธรรม สะท้อนถึงการเจริญเติบโตของบรรทัดฐานทางสังคมที่ให้ความสำคัญเรื่องความเห็นอกเห็นใจและความเคารพซึ่งกันและกัน
หากใครสนใจอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับเจนเนอเรชั่นต่างๆ เพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ : TCDC