ตลาด Self – Driving car เป็นอีกตลาดหนึ่งที่น่าสนใจ และค่ายรถยนต์จำนวนมากต่างก็อยู่ในสมรภูมินี้กันอย่างคึกคัก ซึ่งในวันที่นักพัฒนากำลังเร่งเดินหน้าโครงการทดสอบรถ Self – Driving car กันอยู่นั้น ในฝั่งของแวดวงการตลาดก็คงต้องเร่งหาวิธีในการโฆษณาประชาสัมพันธ์รถยนต์เซกเมนต์ดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งจะปรับเปลี่ยนไปสู่มุมมองเช่นไรนั้น เราขอรวบรวมมาฝากกัน 4 ด้าน ได้แก่
1. เปลี่ยนสู่ความสะดวกสบาย
ความสะดวกสบายในที่นี้ไม่ใช่ของนักการตลาดเป็นแน่ แต่เป็นการหาหนทางทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่า การเดินทางด้วย Self – Driving car นั้นจะเพิ่มความสะดวกสบายให้ตัวเองได้มากกว่ารถยนต์แบบเก่า เพราะคนนั่งสามารถทำงานไปด้วยได้ เล่นกับลูกๆ ได้ หรือจะนอนหลับระหว่างทางก็ได้นั่นเอง
2. เปลี่ยนไปเน้นเรื่องความปลอดภัย
การเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นสาเหตุต้นๆ ของการพัฒนา Self – Driving car เลยก็ว่าได้ โดยมีการอ้างถึงจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนและการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักขึ้นมาบ่อยครั้งในช่วงต้นของการพัฒนารถยนต์ดังกล่าว แต่ถึงวันนี้ก็เชื่อว่า ยังมีผู้บริโภคอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่มั่นใจว่าระบบอัจฉริยะที่อยู่เบื้องหลัง Self – Driving car นั้นจะรักษาชีวิตพวกเขาได้ไหม จึงทำให้นักการตลาดต้องทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างความมั่นใจให้ได้นั่นเอง (แต่อันนี้เมื่อเทียบกับข่าว Tesla เคยชน ก็ยังต้องคิดนะ)
3. เปลี่ยนไปให้ความสำคัญกับคนพิการ – ผู้สูงอายุมากขึ้น
ที่ผ่านมา ขอยอมรับว่าผู้เขียนไม่เคยเห็นโฆษณารถยนต์ที่เน้นกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ หรือมีคนนั่งเป็นคนพิการ – คนชราเลย แต่เมื่อ Self – Driving car มาถึง เราอาจได้เห็นการโฆษณาที่แสดงให้เห็นว่า Self – Driving car คือ พาหนะสำคัญของคนกลุ่มนี้ในการพาพวกเขาออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ
4. จะเกิดการแข่งขันระหว่างรถยนต์ระดับไฮเอนด์กับรถ Self-Driving car
แน่นอนว่า หลังการเปิดตัว Self – Driving car จะมีค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อีกจำนวนหนึ่งที่เดินหน้าผลิตรถยนต์ที่ควบคุมด้วยพวงมาลัยระดับไฮเอนด์ออกมาอย่างต่อเนื่อง และก็มีผู้บริโภคอีกจำนวนหนึ่งเลยทีเดียว ที่เป็นลูกค้าของแบรนด์เหล่านั้นด้วยความจงรักภักดี นั่นจึงอาจทำให้มีการแข่งขันระหว่างรถยนต์ระดับไฮเอนด์กับรถ Self – Driving car ขึ้นมาได้นั่นเอง
ที่มา: AdAge.com