การสื่อสารคือสิ่งสำคัญในการโปรสินค้า ไม่ว่าเป็นสินค้าประเภทใด จะดีแค่ไหน แต่ไม่ได้รับการโปรโมท ก็สามารถดับได้เช่นกัน แต่การจะสื่อสารที่ดีต้องมีอะไรบ้าง ก่อนที่นักการตลาดหลายท่านจะหลงไปกับความงุนงงเพราะมีเดียในประเทศไทยตอนนี้ ที่มีให้เลือกสรรมากมายพร้อมราคาแพงที่ต้องปาดเหงื่อ เรามาดูกันค่ะ ว่าสิ่งที่เรียกว่าสื่อสารแบบ Strong มีอะไรบ้างที่ต้องเช็ค
จุดเด่นแค่ที่เดียว
เราเข้าใจว่านักการตลาดอยากจะสื่อสารหลายสิ่งหลายอย่าง จนบางครั้งก็เกิดการมายำรวมใน Art Work จนไม่รู้ว่าภาพนี้ต้องการจะสื่ออะไร จะสื่อโปรโมชั่นนี้หรอ เอ๊ะ หรือวิธีการร่วมสมัคร เอ๊ะหรือยังไงกันแน่ แต่ในความเป็นจริงลูกค้าไม่คิดเยอะขนาดนี้หรอกนะคะ
เพราะลูกค้าจะมองสื่อเราแค่แวปเดียวมากกระพริบตาเดียวเท่านั้น จังหวะเราจึงต้องมีจุดสื่อสารแค่สิ่งเดียว ให้มองแล้วเก๊ตเลยว่าพูดถึงอะไร ฉะนั้นก่อนอื่นให้เรียงลำดับว่าสิ่งไหนให้ความสำคัญ 1-2-3 จะทำให้เราวางเลเอาท์ภาพได้ดีขึ้น
Key Message ต้องออก
จะมีประโยชน์อะไรถ้าลูกค้าไม่รู้ว่าเราจะสื่ออะไร ในแต่ละแคมเปญจะมี Key Message หลักที่จะต้องโฟกัสมากที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ช่องทางไหนก็จะต้องมี Key Message เป็นจุดขายหลักเสมอ
เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าเรากำลังจะทำอะไรให้เค้า ใช้เราสิเราดีขนาดนี้เลยนะ อย่างกรณีของ Shopee ที่มีเพลงหลอนหูว่า Shopee ส่งฟรีทั่วไทย ก็เพื่อตอกย้ำว่า สั่งเราสิ เราส่งฟรีนะ กรณีนี้เรียกว่า Key Message ออก เพราะลูกค้าข้าใจว่าเราจะบอกอะไรจริงๆ
Media ต้องถึง Target
กรณีนี้เกิดขึ้นได้บ่อยเพราะ Social Media เยอะเหลือเกินจนไม่รู้ว่าจะไปแพลตฟอร์มไหนกันแน่ โดยเฉพาะจะ facebook ดี หรือ Instagram ดีล่ะ Twitter ก็สร้างไวรัลได้ดีนะ ทุกอย่างจะจบเลย ถ้ามีข้อมูลว่ากลุ่มเป้าหมายของเราอยู่ที่ไหนมากที่สุด
แบรนด์จึงต้องใส่ใจข้อมูลของธุรกิจ เก็บทุกข้อมูลที่เกิดขึ้น เพื่อให้แผนการตลาดออกมาถูกกลุ่มเป้าหมายที่สุด เพราะราคา Media ถ้าได้เห็นแล้วต้องปาดน้ำตา การลงแต่ละครั้งจึงต้องคิดแล้วจริงๆ ว่าถูกต้อง
ทำรีเสิร์ชเก็บ Feedback
ทุกอย่างจะดูง่ายไปเลยถ้าธุรกิจมีข้อมูลมาซัพพอร์ตในการทำ Activity เสมอ ฉะนั้น การเก็บ Feedback จะช่วยให้ได้ข้อมูลมากขึ้น ถ้าใครเจอแบบสอบถามว่าเห็นสื่อนี้จากไหน นี่ล่ะค่ะ สิ่งที่บอกว่ามีเดียที่ลงไปมีคนมากแค่ไหน รีเทิร์นกลับมาเป็นยอดขายเท่าไหร่ จะได้คาดการณ์ได้ถูกว่าครั้งหน้าเราจะสื่อสารผ่านช่องไหนถึงจะถูกต้องที่สุด
ในการทำการสื่อสารจริงๆ มักถูกจำกัดภายใต้งบการตลาด ซึ่งค่ามีเดียคือสิ่งที่ทำให้มูลค่าของแคมเปญแพงขึ้น เนื่องจากมีเดียมีราคาที่ค่อนข้างสูง การจะโปรโมทแต่ละครั้งจึงต้องคิดหลายๆ ด้าน ว่าจะวกกลับมาเป็นยอดขายเท่าไหร่ถึงจะคุ้มกับเงินที่เราเสียไป ไม่งั้นจะกลายเป็นตำน้ำพริกละลายแม่น้ำซะเปล่าๆ ฉะนั้นใครที่กำลังวางแพลนมีเดีย อย่าลืมรีเช็คข้อมูลด้านบนนะคะ