63 ปี ของบริษัทขนาดใหญ่ที่ประกอบอุตสาหกรรมน้ำตาลมาอย่างยาวนานอย่าง ‘มิตรผล’ ที่กำลังเปลี่ยนตัวเองมาเป็นบริษัทด้านนวัตกรรมนั้น เพราะเหตุใด มิตรผลถึงต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลง เพื่อเปิดรับกลุ่มคนหลากหลายวัย (ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นเก่า-รุ่นใหม่) และอยู่ในภูมิภาคต่างๆ มากขึ้น
เราได้รับเกียรติพูดคุยกับ ดร.ศรายุธ แสงจันทร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงิน และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มบริหาร กลุ่มมิตรผล มาไขคำตอบเกี่ยวกับการบริหารบุคคล หรือ Human Resource (HR) Management ในยุคนี้ มิตรผลดำเนินการอย่างไรบ้าง
ดร.ศรายุธ ระบุว่ามิตรผลมี Agenda ของการบริหารที่ชัดเจนในด้าน HR โดยเริ่มปรับตัวเข้ากับยุคดิจิทัลมากขึ้น เริ่มพยายามใช้ Social Media หรือสื่อต่างๆ ที่เอามาใช้งานได้เป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น อย่างเช่น การใช้กรุ๊ปต่าง ๆ เพื่อสื่อข้อความหากัน ไม่ว่าจะใช้ค่ายไหนก็ตาม แล้วแต่บางคนถนัด
แต่ส่วนใหญ่จะร่วมกลุ่มในเรื่องของเนื้องาน ใครมีประเด็นอะไรต่าง ๆ ก็จะแลกเปลี่ยนทัศนคติต่างๆ กันได้ อย่างงานกลุ่มที่ ดร.ศรายุธ ทำมาก็อย่างเช่น งานนวัตกรรม งานการเงิน งานบริหาร ก็จะมีระดับผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมในกรุ๊ปงาน
กรุ๊ปงานจะแชร์หลาย ๆ เรื่อง ตั้งแต่เรื่องงานจนถึงเรื่องของความรู้ต่าง ๆ หรือสิ่งที่เกิด เช่น โลกเปลี่ยนไปอย่างไร เราก็จะเอามาแชร์กัน
โดยมิตรผลก็มีการปรับออฟฟิศด้วย โดยทาง ดร.ศรายุธ เล่าว่า สมัยก่อนออฟฟิศจะนั่งกันเป็นบล็อกแบ่งเลย บล็อกสูงเลย ไม่คุยกัน ต่างคนต่างก็มีเขตของตัวเอง
พอถึงยุคที่ต้องคุยกันมากขึ้น ก็ต้องทลายบล็อกนี้ออกไป แล้วให้นั่งเห็นหน้าเห็นตากัน ตอนแรกอาจจะอึดอัด ไม่คุยกันไม่อะไร แต่ตอนหลังก็จะเริ่มมีแนวโน้มคุยกัน หากัน ได้มากขึ้น
ขั้นตอนต่อไป ก็เปิดพื้นที่การทำงานให้เป็นอิสระมากขึ้น แล้วหาเครื่องมือมารองรับพนักงาน เพื่อให้เขาสามารถนั่งทำงานได้จากทุกจุดของตึก รวมถึงสร้างพื้นที่อื่นๆ เพื่อสนับสนุนพนักงาน เช่น ฟิตเนส ห้องอาบน้ำ หรือห้องครัว เป็นต้น
ส่วนการบริหารงานระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่นั้น ดร.ศรายุธ พบว่าคนรุ่นใหม่กล้าที่จะพูดตรง ๆ เมื่อเทียบกับคนรุ่นเก่าอาจจะเกรงใจกัน ซึ่งทิศทางการบริหารก็คือ พนักงานแต่ละยุคจะต้องยอมรับสิ่งเป็นลักษณะเฉพาะของคนแต่ละรุ่น
“อย่างคนรุ่นใหม่ เขาอาจจะเดินเข้ามาหาผม แล้วบอกเลยว่าพี่เรื่องแบบนี้ควรทำแบบนี้ไหม เราก็บอกว่ามีอะไรเรื่องอะไร ประเด็นอะไร คิดอย่างไร เราก็ต้องฟังก่อน ถ้าเป็นสิ่งที่สามารถนำไปใช้ปรับเปลี่ยนได้ก็ลองให้เขาไปทำดู เพราะว่าไม่ปิดบังความคิด” ดร. ศรายุธ กล่าว
ส่วนพนักงานรุ่นใหม่หลายคนก็ชอบลอง หรือชอบกล้าเปลี่ยนแปลง ดร.ศรายุธ มองว่าเราต้องเข้าถึงพนักงานให้ได้มากขึ้น เปิดรับฟังความเห็น เป็นที่ปรึกษาให้ได้ และช่วยให้เขาทำงานได้รวดเร็วขึ้น
ส่วนแนวคิดที่จูงใจให้คนรุ่นใหม่อยู่กับองค์กรไปนาน ทาง ดร. ศรายุธระบุว่าได้ตั้งโครงการ Mitr Phol Accelerator เพื่อให้เขาเข้ามาระดมไอเดียผลิตสินค้า กิจกรรม หรือแพลตฟอร์มออนไลน์มานำเสนอ ซึ่งบางไอเดียก็ได้ต่อยอดจนได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาเลย
นอกจากนี้ในระดับผู้บริหารระดับกลางถึงระดับสูง ก็จะดึงคนให้ทำมางานร่วมกัน ผ่านเครื่องมือใหม่ๆ เช่น Design Thinking หรือ Agile Concept เป็นต้น
เราให้ ดร.ศรายุธ สรุปว่าเสน่ห์ของมิตรผลอยู่ตรงไหน ทาง ดร.ศรายุธ ตอบว่า “ก็เรื่องของการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามา แล้วสามารถพัฒนาตัวเอง พัฒนาองค์กร แล้วต่อยอดให้ตัวเองมี Career Path เติบโตได้ดีขึ้น”
น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ 1 กก. คลิกเลย