ทั้งๆ ที่เป็นขาขึ้นของแพลตฟอร์มจากทางกูเกิล อย่าง “แอนดรอยด์” โดยล่าสุดทิ้งห่างคู่แข่งอย่าง iOS ที่มีส่วนแบ่งการตลาดตามหลังอยู่เกือบเท่าตัว แต่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อดังอย่าง “เอชทีซี” กลับมีตัวเลขผลประกอบการหลังการประกาศจากทางเจ้าตัวเอง ลดลงแบบเกือบครึ่ง เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า งานนี้ไม่รู้ว่าจะงัดกลยุทธ์อะไรออกมาสู้กับยักษ์ใหญ่จากแดนกิมจิกันล่ะนี่…
โดยจากรายงานผลประกอบการของทางผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อดังจากไต้หวันอย่าง “เอชทีซี” ซึ่งประกาศในหน้าเว็บไซต์ของพวกเขาเอง เปิดเผยยอดรายได้ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านไปนี้ ประมาณ 836 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท) ซึ่งเมื่อเทียบกันกับเดือนเดียวกันในปีก่อน ที่พวกเขาทำรายได้ไปถึง 1.56 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 4.68 หมื่นล้านบาท)
หากเทียบกันแล้วแบบปีต่อปี รายได้ที่ลดลงถึงกว่าร้อยละ 46 แสดงให้เห็นถึงปัญหาของเอชทีซีอย่างมาก เพราะยอดรวมของตลาดสมาร์ทโฟน เมื่อแบ่งกันตามแพลตฟอร์ม แอนดรอยด์ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าได้รับผลกระทบจากคู่แข่งอย่าง iOS หรือ Windows Phone เลย
ความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้:?จริงๆ เคยมีกระแสข่าวว่าสำหรับแบรนด์ไต้หวันแบรนด์นี้ ได้รับความนิยมเติบโตเพิ่มขึ้นในแถบประเทศจีน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาน่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น แต่ในตลาดยุโรปและอเมริกา พวกเขายังถูกทั้งแอ๊ปเปิล และซัมซุงแย่งความนิยมไปเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนตระกูลเอชทีซี วัน (HTC One) ที่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่คาดหวังไว้
งานนี้เอชทีซีคงต้องเหนื่อยหน่อยแล้วล่ะครับ สำหรับการกลับมาทวงส่วนแบ่งการตลาดทั้งในตลาดยุโรปและอเมริกา สำหรับในบ้านเรา แม้จะออกไลน์สินค้ามาหลากหลายรุ่น แต่ก็ดูเหมือนว่ายังเกาไม่ตรงที่คันเสียเท่าไรนัก…
ที่มา: MobileBurn?และ HTC