กลุ่มผู้ผลิตสินค้าแบรนด์หรูฟ้องร้อง Alibaba เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ด้วยข้อหาเป็นช่องทางให้สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์สามารถจัดจำหน่ายไปได้ทั่วโลก
แบรนด์หรูที่ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องในคราวนี้ได้แก่ Gucci, Yves Saint Laurent และแบรนด์อื่นๆ ที่ Kering จาก Paris เป็นเจ้าของ โดยแบรนด์เหล่านี้ยืนยันว่าพวกเขาได้รับความเสียหาย และขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการจัดจำหน่ายสินค้าเหล่านี้
คำฟ้องร้องจากโจทก์ยังกล่าวหา Alibaba อีกด้วยว่า สมรู้ร่วมคิดและสนับสนุนผู้ผลิตสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของพวกเขา โดยที่พวกเขาไม่ได้อนุญาต
ทางด้าน Bob Christie โฆษกของ Alibaba ได้ออกแถลงการณ์ว่า ที่ผ่านมา Alibaba ได้ให้ความร่วมมือกับหลายๆ แบรนด์ เพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของแบรนด์เหล่านั้น และก็มีหลักฐานหลายๆ อย่างที่ชี้ให้เห็นว่าทำแบบนั้นจริง น่าเสียดายที่ Kering Group เลือกใช้วิธีฟ้องร้องดำเนินคดี แทนที่จะหันมาพูดคุยกันเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ ทาง Alibaba เชื่อว่าการฟ้องร้องในครั้งนี้ไม่มีมูลความจริง และก็จะสู้คดีอย่างเต็มที่
จริงๆ แล้วประเด็นเรื่องสินค้าปลอมใน Alibaba รวมไปถึง Taobao ยืดเยื้อมานานหลายปี ถึงแม้ว่า U.S. Trade Representative จะลบชื่อ Taobao ออกไปจากรายชื่อตลาดต้องห้ามตั้งแต่ปี 2012
อย่างไรก็ตาม การฟ้องร้อง Alibaba ในครั้งนี้คือครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึงปี โดย Kering Group ด้วยข้อหาเดียวกัน
การฟ้องร้องในครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว เนื้อหาของการฟ้องร้องระบุว่า Alibaba และแพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นๆ ในเครือให้พื้นที่โฆษณา และบริการอื่นๆ เพื่อให้ผู้ผลิตสินค้าปลอมใช้เป็นที่ขายสินค้าให้กับบรรดาลูกค้าในสหรัฐฯ
ตัวอย่างสินค้าแบรนด์เนมปลอมๆ ที่ผู้ฟ้องร้องนำมาอ้างอิงก็ได้แก่ กระเป๋า Gucci จากร้านค้าในจีนที่วางขายใน Alibaba จะมีราคาตั้งแต่ 60 – 150 บาท ซึ่งผู้ซื้อจะต้องซื้ออย่างน้อย 2,000 ชิ้น ในขณะที่ของจริงจะมีราคาเริ่มต้นที่ใบละกว่า 4,000 บาท
เท่ากับว่า Alibaba ยินยอมให้ขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ แม้จะรู้ดีอยู่แล้วว่ามันไม่ใช่ของจริง นั่นคือสิ่งที่เขียนไว้ในคำฟ้องจากแบรนด์หรู
การฟ้องร้องในครั้งนั้นจบลงที่ ศาลมีคำสั่งให้ Alibaba เลิกบริการร้านขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เหล่านั้น
ดูเหมือนว่ามันจะเป็นปัญหาที่ Alibaba แก้ไม่ตก และการฟ้องร้องในครั้งที่ 2 ก็ไม่น่าจะเป็นครั้งสุดท้าย
ที่มา : Recode