Site icon Thumbsup

Hungry Hub บุกสิงคโปร์ เดินหน้าเจาะตลาดนักท่องเที่ยว หวังเพิ่มรายได้ให้ร้านอาหารในไทย

Hungry Hub เริ่มต้นจากแพลตฟอร์มโปรโมชั่นร้านอาหารมานานกว่า 10 ปี แต่ปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจหลายครั้งจนกลายมาเป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการส่วนลด และสุดท้ายมาลงตัวที่แพลตฟอร์มที่นำเสนอราคาด้วยโปรโมชั่นราคาที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถคุมงบประมาณในการรับประทานอาหารแต่ละครั้งได้

ปัจจุบัน Hungry Hub ดำเนินธุรกิจในรูปแบบของแพลตฟอร์ม OTA (Online Travel Agency) สำหรับร้านอาหาร โดยใช้โมเดลการคำนวณราคาแบบ dynamic pricing (คล้ายกับระบบจองห้องของ Agoda หรือ Booking.com) แต่เน้นที่บริการร้านอาหาร ซึ่งเป็นโมเดลที่ยังไม่มีใครทำในไทย

นายสุรสิทธิ์ สัจจะเดว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Hungry Hub เล่าว่า แม้จะล้มเหลวในช่วง 3 ปีแรก แต่ Hungry Hub ก็สามารถพลิกกลับมาประสบความสำเร็จได้ โดยในปี 2024 นี้ ในแต่ละเดือนสามารถมีกำไร 8 หลัก แม้ตอนนี้จะอยู่ในช่วงที่วงการร้านอาหารซบเซา และกำลังมุ่งสู่ความท้าทายสำคัญอย่างการขยายฐานการใช้งานไปยังลูกค้ากลุ่มต่างชาติ ทำให้ตอนนี้มีสัดส่วนผู้ใช้งานไทย 60% ต่างชาติ 40% แต่ก็มุ่งหวังให้เป็น 50:50 ในทั้งสองกลุ่ม และได้มีการปรับในแก้ไขในเรื่องภาษา โปรโมชั่นและแนะนำร้านอาหารตามช่วงเวลาและความต้องการในการเข้าถึงร้านอาหารของคนแต่ละกลุ่ม

เดินหน้าสู่สิงคโปร์ ขยายโอกาสร้านอาหารใหม่ๆ

การเปิดตัว Hungry Hub ในสิงคโปร์ครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและมาเลเซียซึ่งเดินทางสู่สิงคโปร์ พร้อมเสนอทางเลือกการรับประทานอาหารในร้านระดับกลางถึงไฮเอนด์ในราคาที่คุ้มค่า ผ่านฟีเจอร์ควบคุมงบประมาณ (Budget-Controlled Dining) ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Hungry Hub จากความสำเร็จที่ผ่านมาในประเทศไทยเราร่วมมือกับร้านอาหารกว่า 1,700 แห่ง รวมถึงร้านระดับ Michelin Star, Fine Dining และ Rooftop Dining ทั่วไทยในการเข้าถึงกลุ่มนักชิมทั้งชาวไทยและต่างชาติ

“ความโชคดีคือร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ในสิงคโปร์ยอมที่จะเข้าระบบของฮังกรี้ฮับอย่างรวดเร็วในจำนวนหลายร้าน ทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงลูกค้าในสิงคโปร์ และเป็นโอกาสที่ดีในการขยายธุรกิจในปี 2025 นี้”

นอกจากนี้ Hungry Hub ยังสร้างปรากฏการณ์ในวงการด้วยการจับมือกับแพลตฟอร์มพันธมิตรระดับโลก มีสิทธิเศษเฉพาะที่ Hungry Hub มอบให้กับผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม ด้วยแพ็กเกจ Exclusive Deals ที่เกี่ยวกับร้านอาหารที่หลากหลาย ไม่เพียงแต่เป็นแพลตฟอร์มจองร้านอาหารเพียงอย่างเดียว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าให้ครอบคลุม

จากกลยุทธ์ทางธุรกิจและความแข็งแกร่งของพันธมิตรทำให้เรามั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในการบุกตลาดสิงคโปร์ในครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน และด้วยจำนวนชาวสิงคโปร์กว่า 30,000 คน ที่เคยใช้ Hungry Hub ในการจองร้านอาหารในประเทศไทย

Hungry Hub มีเป้าหมายที่จะขยายฐานผู้ใช้งานในสิงคโปร์ต่อไป โดยอาศัยเครือข่าย KOL และอินฟลูเอนเซอร์กว่า 300 คนทั่วโลก ที่จะช่วยสร้างการรับรู้และดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสู่ร้านอาหารในเครือข่าย

หลังจากช่วยพันธมิตรร้านอาหารสร้างรายได้กว่า 3 พันล้านบาท และมีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันกว่า 1 ล้านคนต่อเดือน ยอดจองสะสมมากกว่า 4 ล้านที่นั่ง เฉลี่ยรายจ่ายต่อครั้งมากกว่า 1,000 บาท และสามารถสร้างรายได้ให้แก่ร้านอาหาร 1 ร้านได้สูงสุดกว่า 250 ล้านบาท ต่อปี และมี Top Customer หรือลูกค้าที่จองร้านอาหารผ่าน Hungry Hub จำนวนมากที่สุดในปี 2567 มากกว่า 85 ครั้งต่อปี ลูกค้ารายเดียวใช้จ่ายไปถึง 350,000 บาท

Hungry Hub เผยแผนการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานในประเทศไทยโตอีก 50% ภายในปี 2568 พร้อมขยายการบริการสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเริ่มต้นที่สิงคโปร์ในเดือนธันวาคม 2567 ด้วย