ในการก้าวสู่ยุคของ Hybrid Multicloud นั้น หนึ่งในสิ่งที่ทุกองค์กรธุรกิจต้องคำนึงถึง และให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเรื่องอื่นๆ ก็คือการลงทุนในระบบ IT Infrastructure เบื้องหลังที่ต้องคุ้มค่าสูงสุดในระยะยาว
เพื่อให้ธุรกิจสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่องไม่ติดขัดกับค่าใช้จ่ายหรือการลงทุน และยังต้องสามารถเพิ่มขยายระบบได้อย่างคล่องตัวเพื่อรองรับเติบโตอย่างก้าวกระโดดหรืออย่างรวดเร็ว
IBM Power Systems
IBM Power Systems คือ Server ระดับเอ็นเทอร์ไพรส์สำหรับธุรกิจองค์กร และระบบคลาวด์ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลกลาง IBM POWER9 Processor ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะจากไอบีเอ็มที่ธุรกิจองค์กรทั่วโลกเลือกใช้ เนื่องจากทางไอบีเอ็มได้คัดสรรหน่วยประมวลผลดังกล่าวและออกแบบมาสำหรับตอบโจทย์โลกไอทีในยุค Hybrid Multicloud และเทรนด์เรื่อง Open Source โดยตรง ด้วยการออกแบบให้ระบบมีประสิทธิภาพที่สูงและมีเสถียรภาพเหนือกว่าหน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม x86 ช่วยเสริมความแข็งแกร่งทนทานให้กับธุรกิจ เพราะจากการศึกษาพบว่า IBM Power Systems เป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์ในสถาปัตยกรรมแบบเปิดที่มี Unplanned Downtime น้อยที่สุด
โดยเฉพาะการทำงานบนระบบปฎิบัติการลีนุกซ์เหมือนๆ กัน ทั้งยังมาพร้อมกับการเสริมความมั่นคงปลอดภัยป้องกันและตรวจสอบการโจมตีทางไซเบอร์หรือ Cyber Attacks และ Vulnerabilities ได้แบบเรียลไทม์ และยังมีบริการใช้งานในรูปแบบการลงทุนที่ยืดหยุ่นให้กับลูกค้าหรือผู้ให้บริการคลาวด์ที่คล่องตัวและหลากหลายยิ่งขึ้น ที่เรียกว่า Pay-as-you-go (PAYG) หรือ Utility Consumption Pricing ทั้งการลงทุนจัดซื้อเป็นทรัพย์สินขององค์กรแบบทยอยซื้อตามการเพิ่มขยายหรือ Capacity Credit และลงทุนจัดซื้อแบบเช่าใช้เป็นรายเดือนหรือตามการใช้งานจริง
ซึ่งหลายธุรกิจที่อาจจะประสบปัญหาด้านเงินทุนในช่วงวิกฤตนี้ หรือธุรกิจที่ต้องการบริหารกระแสเงินลงทุน (Cash Flow) ก็สามารถตอบโจทย์ได้แล้ววันนี้กับ IBM Power Systems และ IBM Storage เพื่อให้คุณเลือกใช้งานผลิตภัณฑ์ของไอบีเอ็มให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กร และช่วยให้ธุรกิจสามารถก้าวเดินได้อย่างมั่นคงในสภาวะการณ์ที่ยากลำบาก
รากฐานที่มั่นคงช่วยให้การเปลี่ยนสู่ Hybrid Multicloud ราบรื่นลดกังวลด้วยการคิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง
ที่ผ่านมานั้นเป็นที่รู้กันดีในวงการไอที และองค์กรระดับเอ็นเทอร์ไพรส์ ว่าถ้าหากธุรกิจองค์กรจะมองหาเครื่องเซิร์ฟเวอร์สำหรับรองรับ Business Critical Applications หรือ IT Transformation ที่มีความสำคัญสูงมากต่อธุรกิจองค์กร IBM Power Systems คือตัวเลือกแรกๆ ที่สถาบันการเงินขนาดใหญ่ ภาคอุตสาหกรรมและโรงงาน และธุรกิจองค์กรชั้นนำ ทั่วโลกเลือกใช้งาน ด้วยจุดเด่นที่แตกต่างและตอบโจทย์ที่แต่ละธุรกิจองค์กรต้องการอย่างไม่ต้องสงสัย เช่น
- ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลาง IBM POWER9 รุ่นล่าสุด มีประสิทธิภาพในการคำนวณผลต่อคอร์ (Core) สูงกว่าและเร็วกว่าสถาปัตยกรรม x86 มากกว่า 2-3 เท่า เมื่อเทียบกัน Core ต่อ Core
- คุ้มค่าต่อการลงทุนแบบองค์รวม (Total Cost Of Ownership – TCO) มากกว่าแพลตฟอร์มอื่นโดยเฉพาะ x86 ประมาณ 3.2 เท่าเป็นอย่างน้อย
- พร้อมรองรับเทรนด์หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ธุรกิจองค์กร กำลังมองหา เช่น Artificial Intelligence (AI) หรือ Machine Learning and Deep Learning (ML/DL) ลูกค้าก็สามารถเลือกใช้เครื่อง IBM Power Systems รุ่นที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล GPU หรือการ์ด FPGA ได้ทันที ทั้งยังมีประสิทธิภาพโดยรวมสูงที่สุดอีกด้วย
- นำเสนอประสบการณ์ให้ผู้ใช้พิสูจน์ให้เห็นกับตาในเรื่องของความมั่นคงทนทาน รองรับธุรกิจที่ต้องไม่หยุดหรือสะดุด รวมไปถึงการกู้คืนระบบให้กลับมาใช้งานได้อย่างรวดเร็วด้วยการเสริมเซ็นเซอร์พิเศษในทุกจุดเสี่ยงของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในเครื่อง IBM Power Systems เพื่อทำการตรวจสอบ แจ้งเตือน และกู้คืนได้ทันทีเมื่อเกิดความผิดปกติใดๆ ทางฮาร์ดแวร์ขึ้น
- การเสริมความมั่นคงปลอดภัยทางด้าน Cyber Resiliency ทั้งในระดับของฮาร์ดแวร์และ ซอฟต์แวร์ตั้งแต่ระดับล่างเช่นเฟิร์มแวร์ ไปจนถึงระดับแอปพลิเคชันที่ติดตั้งใช้งานอยู่ เพื่อให้ธุรกิจองค์กรสามารถมั่นใจและหมดห่วงเมื่อนำเอาระบบงานสำคัญๆ มารันบน IBM Power Systems
อย่างไรก็ดี เมื่อโลกได้ก้าวเข้าสู่ยุคของ Cloud และการลงทุนใช้งานระบบ IT นั้นได้เปลี่ยนรูปแบบจากการจัดซื้อไปสู่การเช่าใช้งาน IBM เองก็ได้มีการเพิ่มรูปแบบการใช้งานให้กับ IBM Power Systems ให้ธุรกิจองค์กรสามารถเช่าใช้ระบบด้วยการคิดค่าใช้จ่ายการใช้งานทรัพยากรบนแต่ละเครื่องตามจริงได้ ทำให้รองรับ Workload เดิมที่ใช้งานอยู่และ Workload ใหม่ๆ ที่คาดเดาปริมาณการใช้งานได้ยากอย่าง Cloud-Native Application ให้สามารถรองรับผู้ใช้หรือปริมาณงานที่เข้ามาได้ดียิ่งขึ้นและยืดหยุ่นขึ้น ซึ่งคุณสามารถใช้บริการรูปแบบ Cloud-like Consumption Pricing เช่นนี้บนแพลตฟอร์ม IBM Power Systems และ IBM Storage ทั้งการติดตั้งใช้งานในลักษณะ on-premise หรือ Private Cloud ในดาต้าเซ็นเตอร์ขององค์กร และ off-premise หรือ Public Cloud จากผู้ให้บริการชั้นนำต่างๆ
เพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Workload ทั้งเก่าและใหม่ พร้อมปรับสู่การทำงานแบบ Automation
ทุกธุรกิจองค์กรต่างก็มี Workload แบบเดิมๆ ที่ใช้งานอยู่บนแพลตฟอร์ม IBM AIX, IBM i, Linux หรือ SAP HANA ก็แล้วแต่ ซึ่งถือเป็นระบบงานสำคัญหรือ Core Application ของแต่ละองค์กรที่จะทิ้งไปเสียก็ไม่ได้ กลับกันคุณยังต้องพยายามหาวิธีการหรือเทคโนโลยีมาช่วยให้ Workload เดิมๆ เหล่านั้นทำงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีสะดุด และรองรับการเติมโตของธุรกิจไปพร้อมกันได้ ดังนั้นการเลือกใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ผ่านการทดสอบเพื่อรองรับการใช้งานตลอดเวลา 24×7 อย่าง IBM Power Systems เป็นสิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาให้คุณได้ เพียงแค่คุณย้าย Workload เก่าๆ หรือเปลี่ยนเครื่อง IBM POWER รุ่นเก่าๆ เหล่านั้น มารันบน IBM Power Systems รุ่นล่าสุดเท่านั้น ก็สามารถทำให้ระบบงานที่เป็น Core Business มีเสถียรภาพที่ดีขึ้นจนคุณไม่อยากเชื่อ แต่เราสามารถพิสูจน์ให้คุณมั่นใจได้จากการที่เรามีลูกค้าธุรกิจองค์กรต่างๆ มากมายทั่วโลกตัดสินใจอัพเกรดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ รวมไปถึงระบบ SAP ECC เก่ามาใช้เป็น SAP S/4 HANA บนเครื่อง IBM Power Systems กันอย่างมากมายทุกอุตสาหกรรม
นอกจากรองรับการย้ายระบบเดิมมาใช้งานบน ขึ้นมาใช้งานบน IBM Power Systems รุ่นล่าสุด ก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเสถียรภาพให้กับ Workload เก่าแล้ว IBM Power Systems ปัจจุบันยังทำงานร่วมกับ Red Hat Ansible Automation ได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อเพิ่มความสามารถในการบริหารจัดการ การดูแลระบบ และการติดตั้งเพิ่ม Workload ใหม่ๆ บนโครงสร้างพื้นฐานแต่ละขั้นตอน ให้เป็นไปอย่างอัตโนมัติ ช่วยให้ชีวิตคนไอทีเช่นคุณสะดวกสบายมากขึ้น ลดความผิดพลาดที่เกิดจากตัวบุคคล และยังมีเวลาเหลือเอาไปสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อีกด้วย
และหากโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวอยู่บนแพลตฟอร์มของ IBM ก็ยิ่งทำให้ธุรกิจมีความสามารถในการเพิ่มขยายระบบ, การเพิ่มศักยภาพในการทำงาน (High Availability) และการกู้คืนข้อมูลเมื่อเกิดภัยพิบัติ (Disaster Recovery) ที่มากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่กำลังสนใจย้าย Workload ต่างๆ มาใช้งาน การที่ IBM เปิดให้ธุรกิจองค์กรเช่าใช้ IBM Power Systems ในแบบคิดค่าใช้จ่ายตามทรัพยากรที่ใช้งานจริงได้ ก็จะทำให้ธุรกิจองค์กรมีทางเลือกใหม่ในการเพิ่มขยายระบบในอนาคตได้โดยไม่มี Downtime ด้วยการติดตั้ง Hardware ที่มีขนาดใหญ่มารอไว้ก่อน และใช้ทรัพยากรเพียงแค่บางส่วนของระบบก่อนเท่านั้น จนเมื่อธุรกิจเติบโตพร้อมเพิ่มขยายแล้ว จึงค่อยปรับไปใช้ทรัพยากรที่มากขึ้น และมีค่าใช้จ่ายรายเดือนเพิ่มขึ้นในภายหลังได้
ให้คุณพร้อมรัน Cloud-native Apps ได้ง่ายกว่าใครด้วย Red Hat OpenShift Container Platform (RH OCP)
หลายธุรกิจองค์กรเริ่มขยับตัวและมีการใช้งาน Container Platform กันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นการพัฒนาและ Deploy แอปพลิเคชันรูปแบบคลาวด์อย่างแท้จริง IBM เองได้เล็งเห็นถึงเทรนด์ที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ล่วงหน้ามาหลายปีแล้ว ทำให้ IBM ตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อกิจการของ Red Hat นั่นเท่ากับเป็นการติดปีกให้ IBM กลายเป็นผู้ให้บริการ Hybrid Cloud และ Enterprise Container Platform ชั้นนำของโลกทันที และการที่ IBM ได้นำเสนอ IBM Cloud Paks ซึ่งเป็นโซลูชันสำเร็จรูปสำหรับ Workload ที่หลากหลายออกมาทันที เป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้ IBM เป็นผู้นำทางด้าน Hybrid Multicloud อย่างชัดเจน และทำให้ธุรกิจองค์กรมีทางเลือกในการใช้งานที่ผ่านการตรวจสอบและรวบรวมมาให้ลูกค้าทั่วโลก สามารถใช้งาน Open Source Packages แต่ได้รับการดูแลแก้ปัญหาจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ทาง IBM มอบให้กับลูกค้าที่ไว้วางใจ เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ต้องการได้อย่างมั่นใจ
และที่ขาดไม่ได้คือเรื่องของประสิทธิภาพนั้น IBM ระบุว่าการใช้ Red Hat OpenShift บน IBM Power Systems สามารถรองรับจำนวน Container ได้มากกว่า x86 Server ถึง 3.2 เท่าต่อ Core ในขณะที่ Throughput ของระบบที่สูงขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า เมื่อคิดค่าใช้จ่ายโดยรวมหรือ TCO ของการใช้งานแพลตฟอร์ม RH OCP บน IBM Power กีดีกว่าบน x86 ถึง 2.6 เท่า อีกด้วย นั่นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่องค์กรต่างๆ จะเลือกใช้ IBM Power Systems เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ Traditional Workload และ Cloud-native Workload ไปพร้อมๆ กันอย่างคุ้มค่า ทั้งนี้หากใช้บริการในรูปแบบ Cloud-like Consumption Pricing หรือการคิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริงด้วยแล้ว ก็จะยิ่งทำให้ธุรกิจองค์กรเกิดความคล่องตัว การบริหารกระแสเงินสดทำได้อย่างไม่มีสะดุด และการจัดการทรัพยากรของระบบมีความยืดหยุ่นแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน
ฟรี!! เพียงติดต่อเรากลับมาเพื่อขอใช้บริการ Cloud Assessment and Migration Workshop เพื่อเริ่มต้นวางรากฐานที่มั่นคงและก้าวเดินไปสู่ Hybrid Multicloud ได้แบบก้าวกระโดด
จากทั้งหมดที่กล่าวมา หากคุณไม่แน่ใจว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหน หรือไม่แน่ใจว่า Workload แบบไหนที่สามารถย้ายไปสู่ Cloud-native Apps บ้าง หรืออยากรู้ว่าหากย้ายไปสู่ Public Cloud แล้วจะคุ้มค่าใช้จ่ายจริงหรือไม่ เป็นต้น ทาง IBM และ Computer Union ยินดีที่จะนำเสนอ Cloud Assessment and Migration Workshop ให้กับธุรกิจองค์กรใดๆ ที่กำหนดวางแผนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอที ให้ไปสู่ Hybrid Multicloud Roadmap และการพิจารณาการลงทุนที่คล่องตัวกว่าเดิม หรือต้องการเปลี่ยนการลงทุนจากค่าใช้จ่ายเริ่มต้นครั้งเดียว (CAPEX) ให้เป็นการลงทุนตามปริมาณการใช้งานจริงตามช่วงเวลาการบริหารระบบ (OPEX) ส่วนเงินที่เหลือหรือได้คืนกลับมาจากการการลงทุน ก็สามารถนำไปต่อยอดหรือประเมินการเดินทางตามกลยุทธ์ในรูปแบบ Hybrid Multicloud ได้อีกด้วยในอนาคต
โดยการนำเสนอบริการแบบฟรีๆ เช่นนี้ ทาง IBM ร่วมด้วยกับ Computer Union มีตวามพร้อมเป็นอย่างยิ่งสำหรับช่วยลูกค้าที่อย่างให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปศึกษาและเก็บข้อมูลเพื่อ
- ประเมินปริมาณการใช้ทรัพยากรของระบบบนสภาพแวดล้อมแบบคลาวด์
- ประเมินความคุ้มค่าในการย้าย Workload หรือระบบต่างๆ มาอยู่บนแพลตฟอร์ม RH OCP และ IBM Power Systems
- ประเมินประสิทธิภาพโดยรวมของระบบงาน Database และระบบ SAP ให้รองรับ Digital Transformation
- ประเมินด้านความพร้อมของระบบไอทีและรองรับเรื่องของ Cyber Resilliency อย่างถูกต้องเหมาะสม
- ประเมินระบบสำรองข้อมูลและความสามารถในการปกป้องข้อมูลจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
หากลูกค้าท่านใดที่สนใจบริการ Cloud Assessment and Migration Workshop ฟรี..ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น รวมไปถึงสนใจผลิตภัณฑ์หรือโซลูชันใดๆ จาก IBM Power Systems และ IBM Data Storage Solutions สามารถติดต่อทีมงาน Computer Union เพื่อขอคำปรึกษาหรือขอรับบริการดังกล่าวได้ทันทีผ่านช่องทางดังนี้
Email : cu_mkt@cu.co.th
Tel : 02 311 6881 #7151, 7158
ข้อมูลเพิ่มเติม : power-hybrid-cloud (ibm.com)