ทุกวันนี้ เชื่อว่าโทรศัพท์มือถือกลายเป็นสิ่งหนึ่งที่หลายคนคงจะขาดไปไม่ได้ จนกล้าพอที่จะพูดได้ว่ามันกลายเป็น “ปัจจัยที่ 5 หรือ ปัจจัยที่ 6” และเมื่อเทคโนโลยีมีคุณภาพดีขึ้น แต่ราคาสวนกันคือถูกลง เลยส่งผลให้คนเริ่มที่จะเข้าถึงสิ่งเหล่านี้กันได้มากขึ้นเรื่อยๆ?และปัจจุบันนอกจากโทรศัพท์จะมีไว้คุยกัน ไว้ส่งข้อความแล้ว ยังมีความสามารถเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย จนหลายต่อหลายคนใช้โทรศัพท์เหล่านี้แทนที่การใช้งานคอมพิวเตอร์กันไปแล้ว จนเกิดคำที่เรียกโทรศัพท์เหล่านี้ว่า “สมาร์ทโฟน” และยิ่งนับวันสมาร์ทโฟนก็มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนมีคำถามเกิดขึ้นมาหลายต่อหลายคราว่า “สมาร์ทโฟนจะทำให้คอมพิวเตอร์จากโลกเทคโนโลยีนี้ไปเร็วๆ นี้หรือไม่?”
พูดถึงเรื่องแบบนี้ ก็ชวนให้คิดถึงเรื่องวิวัฒนาการ และเทรนด์การใช้งานอุปกรณ์ไฮเทคอย่างคอมพิวเตอร์ ซึ่งจากผลสำรวจและตัวเลขต่างๆ (ข้อมูลจาก Morgan Stanley) หากลองดูจากภาพกราฟ ที่แสดงให้เห็นถึงอัตราการเจริญเติบโตของอุปกรณ์ไฮเทคตั้งแต่ยุคเก่าจนปัจจุบัน โดยในแต่ละยุคนั้น จำนวนของอุปกรณ์ในท้องตลาดก็มีเพิ่มขึ้นไปด้วย นั่นแสดงให้เห็นว่าอุปกรณ์เหล่านี้วิ่งเข้าคนเรามากขึ้น จากการใช้งาน Computer Mainframe เมื่อประมาณ 50 ปีก่อน ทั่วโลกมีอยู่กันประมาณหนึ่งล้านเครื่อง มาในยุคกลางหน่อยที่มีการใช้คอมพิวเตอร์ที่เป็น PC ซึ่ง 30 ปีถัดมามีผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยๆ เท่า
เมื่อมีอินเทอร์เน็ตเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อน เพียงอีกแค่ประมาณ 10 ปีถัดมา Desktop Internet ก็เริ่มมีบทบาทในสังคม คนเริ่มหันมาสนใจในเทคโนโลยี โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ต ทำให้ความนิยมเพิ่มสูงกว่าหนึ่งพันล้านเครื่อง และสุดท้ายเมื่อเข้าสู่ยุคปัจจุบัน ความนิยมในการใช้งานอินเทอร์เน็ตนั้นก็เพิ่มอย่างชัดเจน และที่สำคัญความต้องการใช้งานแบบเคลื่อนที่นั้นมีมากขึ้น นั่นจึงเป็นที่มาของการใช้งานอุปกรณ์พกพาที่สามารถเชื่อมต่อให้คุณไปยังโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ได้หมายถึงโทรศัพท์มือถือเพียงอย่างเดียว แต่หมายรวมถึงคอมพิวเตอร์พกพา Tablet PC โทรศัพท์สมาร์ทโฟน หรือแม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าเองในอนาคตก็สามารถที่จะเชื่อมต่อพาคุณไปยังโลกกว้างอีกแห่งได้ด้วย
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เคยมีคนกล่าวไว้ว่าคอมพิวเตอร์พกพาหรือ Labtop PC จะมีอัตราการเติบโตจนกินส่วนแบ่งตลาดของคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะหรือ Desktop PC ซึ่งสุดท้ายก็เป็นแบบนั้นจริง แต่ย้อนหลังไปแค่ช่วงสามสี่ปีที่ผ่านมาโทรศัพท์ประเภทสมาร์ทโฟนเองก็ไม่ได้น้อยหน้า เพราะก็มีอัตราการเติบโตที่สูง จนมีการคาดการณ์กันว่าจะเติบโตจนแซงส่วนแบ่งของคอมพิวเตอร์ทั้งหมดกันเลยทีเดียว
จนเมื่อไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน ตัวเลขที่ไม่คาดว่าจะมาถึงเร็วขนาดนี้ ก็ได้ปรากฏให้เห็นจากผลการสำรวจของ IDC ซึ่งบอกว่าในไตรมาสที่สี่ปี 2010 ที่เพิ่งจะผ่านไปนั้น สมาร์ทโฟนถูกขายไปถึงกว่า 100.9 ล้านเครื่องทั่วโลกเลยทีเดียว ในขณะที่คอมพิวเตอร์นั้นในช่วงเวลาเดียวกันกลับมีการจำหน่ายไปได้เพียง 92.1 ล้านเครื่องทั่วโลกเท่านั้น
ตัวเลขยอดขายนี้อาจจะยังไม่ได้การันตีอะไรได้มากเท่ากับอัตราการเติบโต ?โดยสมาร์ทโฟนนั้นวัดกันเฉพาะแค่ไตรมาสสี่ของ 2009 กับ 2010 นั้น มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 87.2 ในขณะที่คอมพิวเตอร์เองกลับโตขึ้นเพียงร้อยละ 5.5?ซึ่งตัวเลขเหล่านี้แสดงถึงแนวโน้มและทิศทางในปีถัดๆ ไป ทำให้พอจะสรุปคร่าวๆ ได้ว่านี่เริ่มเข้าสู่ยุคทองของสมาร์ทโฟนโดยแท้จริง
แต่แม้ว่าสมาร์ทโฟนจะโตขึ้นเพียงใด ผู้เขียนเชื่อว่าคงจะไม่ทำให้ตลาดของคอมพิวเตอร์นั้นหายไปในอีกไม่กี่ปีนี้อย่างแน่นอน เพราะแม้ว่าจะเริ่มถดถอยลงสำหรับตัวเลขการเติบโต แต่การใช้งานภาพรวมจากที่ได้เคยสอบถามกับผู้รู้หลายๆ ท่าน น่าเชื่อได้ว่าสมาร์ทโฟนไม่สามารถใช้งานทดแทนคอมพิวเตอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เนื่องจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนำเข้าข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ยังได้เปรียบในการใช้งานทั้งเมาส์และคีย์บอร์ด (แม้ว่าจะมีการออกอุปกรณ์เสริมออกมามากมายก็ตามสำหรับสมาร์ทโฟน) หรือปัจจัยเรื่องของประสิทธิภาพในการใช้งาน เป็นต้น
สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ คาดว่าจะเป็นอัตราการเติบโตของยอดขายคอมพิวเตอร์ที่คงที่ หรือลดลง แต่จะยังไม่ได้หายไปเลยซะทีเดียว แต่สำหรับอนาคตของสมาร์ทโฟนนั้นน่าจะยังเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามปัจจัยที่จะนำพาสมาร์ทโฟนให้ก้าวเดินไปได้นั้น ก็คงต้องหวังพึ่งเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่จะผลักดันให้การใช้งานอุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ Tablet อื่นๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นจริง เราคงได้เห็นเทคโนโลยีอะไรต่อมิอะไร ที่เราเคยเห็นแต่ในหนังในทีวีตรงหน้าของคุณก็เป็นได้ครับ…