ทุกวันนี้ หากมองไปตามตึกสูงในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในย่านใจกลางเมือง หรือย่านแนวเส้นรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT เชื่อว่าคงมีหลายคนรู้สึกสะดุดตากับคอนโดมิเนียม High-rise ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นออกมาจากตึกในย่านเดียวกัน ซึ่งหากสังเกตให้ดี ๆ จะพบว่า ตึกเหล่านั้น ล้วนมีสัญลักษณ์ของแบรนด์ IDEO Q ปรากฏอยู่แทบทั้งสิ้น แต่กว่าจะกลายเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นเช่นทุกวันนี้ ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ในเส้นทางของ IDEO Q มีหลายสิ่งที่น่าสนใจและน่าหยิบมาเป็นกรณีศึกษาทั้งสิ้น และวันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่เราจะพาทุกท่านไปหาคำตอบจากทีมผู้บริหารของ IDEO Q กันค่ะ
งานออกแบบ แรงบันดาลใจจากเจมส์บอนด์
“ต้องยอมรับว่าโครงการต่าง ๆ ของเราจะมีชื่อเล่นแตกต่างกันไป เช่น ตึกวอลล์อี (IDEO Q สยามราชเทวี) ตึกนกเพนกวิน ตึกยานแม่ ตึกขนมจีบ เรียกว่าดีไซเนอร์ของโครงการยิ้มหน้าบานกันเลย” คุณสุเมธ รัตนศรีกูล กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจคอนโดมิเนียม ไอดีโอ คิว บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับบอกว่า นี่คือการสร้างความแตกต่างประการแรกกับงานดีไซน์ภายนอก ขณะที่เมื่อเข้ามาภายในโครงการก็ไม่ผิดคาด เพราะจะพบว่ามีฟังก์ชันการใช้งานพิเศษอีกหลายอย่างซ่อนอยู่
“เราเหมือนพระเอกเจมส์บอนด์ ภายนอกใส่สูทดูเนี้ยบ ๆ เท่ ๆ แต่ข้างในก็ไม่ธรรมดา เพราะมีอาวุธลับซ่อนอยู่หลายอย่าง เช่น IDEO Q พญาไท เป็นโครงการแรก ๆ ที่นำ Starbucks เข้ามา หรือ IDEO Q สยาม-ราชเทวี ที่เปิดตัวกับฟังก์ชันลิฟต์ส่วนตัวเป็นรายแรกในย่านราชเทวี”
“ส่วนโครงการ IDEO Q ชิดลม-เพชรบุรี ก็มาพร้อมกับดีไซน์ตัวตึกที่โดดเด่น การจัดแบ่งพื้นที่ใช้งานอย่างลงตัว รวมถึงมีโซนพักผ่อนที่ออกแบบอย่างลงตัวที่ด้านบนของพื้นที่ แถมยังมีออนเซ็นด้วย” คุณสุเมธเล่าถึงมุมมองในการออกแบบโครงการ
ทำเลที่ตั้งดีมีชัยไปเกินครึ่ง
เอ่ยถึงเรื่องทำเล คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้บริโภคทุกวันนี้มองประเด็นเรื่องการคมนาคมที่สะดวกเป็นหลัก แต่คุณสุเมธให้ทัศนะเรื่องทำเลได้ต่างออกไป โดยมองว่าที่ดินในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯ นั้นมีการแข่งขันสูงจริง แต่การเลือกพื้นที่โครงการนอกจากจะเน้นที่ทำเลใกล้สถานีรถไฟฟ้าแล้ว ยังต้องพิจารณาสถานที่ใกล้เคียงมาประกอบอีกด้วย นั่นจึงทำให้แบรนด์ IDEO Q ทั้งหมดนอกจากจะใกล้สถานีรถไฟฟ้าแล้ว ยังอยู่ไม่ห่างจากศูนย์การค้าชั้นนำ – โรงพยาบาล – สถานศึกษา – สวนสาธารณะด้วย
“รอบ ๆ เรานี่มีศูนย์การค้าเต็มเลย เช่น สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ เซ็นทรัลเวิลด์ แพลตินัมแฟชั่นมอลล์ เซ็นทรัลชิดลม จามจุรีสแควร์ ฯลฯ ทำให้สามารถดึงความสนใจจากลูกค้าเป้าหมายได้หลายกลุ่ม ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไต้หวัน”
ไม่เพียงเท่านั้น ในย่านดังกล่าวหากพิจารณาดี ๆ จะพบว่าเป็นแหล่งรวมของสถานศึกษาชั้นนำ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ไปจนถึงย่านที่เป็นสถาบันกวดวิชาของกรุงเทพ จึงทำให้กลุ่มครอบครัวทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดให้ความสนใจมาเลือกซื้อจากแบรนด์ IDEO Q ด้วยเช่นกัน
ส่วนเรื่องของการดูแลสุขภาพก็ที่ตั้งของ IDEO Q จึงใกล้สถานพยาบาลต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลพระมงกุฏ โรงพยาบาลพญาไท 1 รวมถึงมีสวนสาธารณะอย่างอุทยาน 100 ปีจุฬา สวนลุมพินี ฯลฯ อยู่ในละแวกใกล้เคียงให้ไปออกกำลังกายได้
ในจุดนี้ คุณสุเมธชี้ว่า นอกจากจะได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพแล้ว ยังมีบุคลากรทางการแพทย์ให้ความสนใจโครงการสูงไม่แพ้กัน หรือในกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ IDEO Q ก็ได้รับความนิยมไม่น้อย เพราะเดินทางสะดวกด้วย Airport Link นั่นเอง
สมรภูมิการตลาด สื่ออย่างไรให้เข้าถึงใจกลุ่มเป้าหมาย
เทคนิคด้านการตลาดก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ โดยในภาวะเศรษฐกิจของไทยที่ตลาดระดับบนยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และตลาดต่างประเทศที่มีนักลงทุนให้ความสนใจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยนี้ ส่วนใหญ่เข้าถึงคอนเทนต์ผ่านอุปกรณ์โมบายล์ ดังนั้น IDEO Q จึงให้ความสำคัญกับคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ ให้มีความชัดเจน เข้าใจง่าย และสะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ IDEO Q ซึ่งมีส่วนทำให้ลูกค้ารับรู้ว่าโครงการนี้ตอบโจทย์ตนเองหรือไม่ รวมถึงระดับราคาว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ด้วย
จากจุดแข็งดังที่กล่าวมานี้ คุณสุเมธเผยว่า ในปี 2016 แบรนด์ IDEO Q สามารถสร้างปรากฏการณ์ในวงการอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างน่าภูมิใจ กับ IDEO Q จุฬา-สามย่าน ที่สามารถโอนกรรมสิทธิ์เกือบ 1,500 ยูนิตได้ภายในเวลาเพียงสามเดือนเท่านั้น ในขณะที่ IDEO Q สยาม-ราชเทวีเคยได้รับรางวัลจากเวที Think of Living Awards ในสาขา Best Facilities & Best Architecture ด้วยเช่นกัน
ก้าวต่อไปของ IDEO Q
เมื่อถามถึงทิศทางของ IDEO Q ในอนาคต คุณสุเมธเล่าว่า ในปีนี้มีการเปิดตัวสองโครงการใหม่ล่าสุดอย่าง IDEO Q วิคตอรี่ (ขายหมดแล้ว) และ IDEO Q สุขุมวิท 36 แต่ทั้งสองโครงการเป็นโครงการที่ไฮเทคกว่าเดิม เนื่องจากมีการนำระบบจอดรถอัจฉริยะเข้ามาใช้ภายในโครงการ เพื่อลดปัญหาการวนหาที่จอดรถ และช่วยประหยัดเวลาให้กับลูกบ้าน รวมถึงนำเทคโนโลยีเช่น Golf Simulator – Virtual Fitness เข้ามาด้วย เนื่องจากมองว่ามันสามารถตอบรับเทรนด์ใหม่ ๆ ของการใช้ชีวิตได้
“นอกจาก IDEO Q พญาไท, IDEO Q ราชเทวี, IDEO Q จุฬา-สามย่าน และ IDEO Q Victory จะเป็นโครงการที่สะท้อนถึงความสำเร็จของแบรนด์เราแล้ว ในปีนี้และต้นปีหน้า เรายังมีโครงการที่พร้อมเข้าอยู่อย่าง IDEO Q สยาม-ราชเทวี, IDEO Q ชิดลม-เพชรบุรี และ IDEO Q สุขุมวิท 36 ซึ่งเป็นโครงการน้องใหม่แห่งแรกในย่านทองหล่อด้วย โดยจะมีการเปิดห้องตัวอย่างให้ชมได้ภายในปี 2017 นี้” คุณสุเมธกล่าว
โดยราคาของ IDEO Q สยาม-ราชเทวี นั้นเริ่มต้นที่ 6.39 ล้านบาท ส่วน IDEO Q ชิดลม-เพชรบุรี เริ่มต้นที่ 5.75 ล้านบาท และ IDEO Q สุขุมวิท 36 เริ่มต้นที่ 8.39 ล้านบาท
“สิ่งที่เราเน้นตลอดมาของแบรนด์ IDEO Q ก็คือ การเป็นคอนโดมิเนียมที่สามารถตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองด้วยโลเคชัน และ Facilities ต่าง ๆ ที่เพียบพร้อม รวมถึงสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายด้วย BTS และ MRT ซึ่งการจะทำได้นั้น ต้องมีการศึกษาวิจัยอย่างหนักเพื่อให้เข้าใจว่าลูกค้าของเราใช้ชีวิตอย่างไร ต้องการอะไร ด้วยการทำงานเช่นนี้ทำให้ IDEO Q เป็นแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าด้วยดีเสมอมา” คุณสุเมธกล่าวทิ้งท้าย
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ananda.co.th หรือ โทร. 02 316 2222
บทความนี้เป็น Advertorial