ความต้องการในการชมภาพยนตร์และซีรีย์ในแบบ Video On Demand: VOD มีเพิ่มมากขึ้น และในเมืองไทยก็มีผู้เล่นที่เปิดบริการในด้านนี้เป็น Subscription Video On Demand: SVOD มากกว่า 5 รายแล้ว และ iflix คือรายล่าสุดที่กำลังจะมาเปิดบริการในไทย โดยเป็นบริษัทในกลุ่มของ Catcha Group ที่ร่วมลงทุนกับ Think of Living, Ensogo, One2Car และ Evolution Media Capital นักลงทุนจากฝั่ง Hollywood ทำให้ตลาดและการแข่งขันในประเทศไทยมีความคึกคักมากขึ้น
iflix ได้เปิดให้บริการในมาเลเซียและฟิลิปปินส์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา และประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 100,000 คนหลังเปิดตัว 6 สัปดาห์ และประเทศไทยคือประเทศที่ 3 ที่ iflix จะเข้ามาเปิดให้บริการ โดยมีกำหนดการการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้
ทาง iflix ได้เปิดบริษัทให้ผู้สื่อข่าวรวมทั้ง thumbsup ได้พูดคุยเกี่ยวกับ iflix ในประเทศไทยโดยคุณมาร์ก บริทท์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของกลุ่มบริษัท ไอฟลิกซ์ จำกัด และคุณอาทิมา สุรพงษ์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอฟลิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้มาแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ iflix และกำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยมีเนื้อหาโดยสรุปดังนี้
- พฤติกรรมของผู้ชมในยุคนี้เปลี่ยนไป จากเดิมที่จะยอมรอดูทีละตอน ตอนละอาทิตย์ ก็กลายเป็น binge watching หรือดูอย่างต่อเนื่องหรือรวดเดียวจบ season
- วิสัยทัศน์ของ iflix คือ Big ต้องการโตในภูมิภาคนี้, Affordable ราคาที่สามารถให้ทุกคนเข้าถึงได้, Reliable ความน่าเชื่อถือของระบบ และ Variety ความหลากหลายของ content หรือเนื้อหาที่เปิดให้คนเข้ามาเลือก
- ในอนาคตอันใกล้อาจจะมีการทำ Original Production หรือการออกเงินทุนเพื่อให้คนที่สนใจเข้ามาสร้าง Content ได้
- ราคาในประเทศไทยที่จะให้บริการคือ 100 บาทต่อเดือน สามารถดูได้ทุกเรื่องโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม (เมื่อเทียบกับราคาในมาเลเซียอยู่ที่ 90 บาทต่อเดือน) โดยสามารถใช้ได้ 5 เครื่อง เปิดพร้อมกันได้ 2 เครื่อง
- iflix มีการเซ็นสัญญากับ 35 studios ชื่อดังระดับโลกเช่น ฟอกส์ (Fox) ดิสนีย์ (Disney) วอร์เนอร์ บราเธอร์ส (Warner Bros) เอ็มจีเอ็ม (MGM) บีบีซี (BBC) สตาร์ส (Starz) เรดบูล์ ทีวี (Redbull TV) และเคบีเอส (KBS) ซึ่งจะมีรายการวาไรตี้และซีรีย์ที่น่าจะตอบโจทย์กับคนไทยได้ง่าย
- Content ในแต่ละประเทศจะมีความแตกต่างกันด้วยพฤติกรรมการเลือกดู content ที่ไม่เหมือนกัน
- สัดส่วนของ Content สำหรับเด็กจะมีถึง 20% นอกจากนั้นก็จะเป็นส่วนของภาพยนตร์และซีรีย์
- เรื่องเสียงและซับไทย ในช่วงแรกจะเน้นการทำซับไทยก่อน ส่วนเสียงไทยจะพยายามทำให้มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
- ความเด่นของ iflix คือความเป็น regional เมื่อเทียบกับผู้เล่นที่เข้ามาก่อนหน้าที่ส่วนใหญ่จะเส้นตลาดในประเทศไทย ความเป็น Regional จะทำให้มีข้อเสนอให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีส่วนให้ราคาที่ผู้ใช้ต้องจ่าย จ่ายได้ถูกลงอีกด้วย
- ช่องทางในการชำระค่าบริการจะยึดบัตรเครดิตเป็นหลัก นอกจากนั้นก็จะมีช่องทางที่คนไทยชอบใช้อยู่อย่าง การโอนเงิน, การจ่ายผ่าน Counter Service
การเปิดให้บริการจะเป็นช่วงกลางสิงหาคมนี้ โดยตอนนี้สามารถเข้าไปลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ iflix.com
แม้จะเห็นว่ามีการดึงเอาราคามาเป็นส่วนหนึ่งในการชูความน่าสนใจ แต่แกนหลักของมันจริงๆ ก็คือ Content เพราะถ้ามันไม่ดีหรือมันไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนที่เปลี่ยนไปตลอดเวลาได้ ก็ย่อมจะสู่ในตลาดนี้ยากแน่ๆ
เกี่ยวกับ ไอฟลิกซ์ www.iflix.com
ไอฟลิกซ์ เกิดจากความร่วมมือระหว่างกลุ่มนักลงทุนระดับภูมิภาค แคทชา กรุ๊ป (Catcha Group) และ บริษัทลงทุนยักษ์ใหญ่ในฮอลลีวูด เอเวอร์ลูชั่น มีเดีย แคปิตอล (Evolution Media Capital) ที่ต้องการจะสร้างบริการดูหนังและซีรีส์ออนไลน์สำหรับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียง โดยมีรายการทีวีและหนังมากมายจากทั่วโลกมาให้เลือกชมกว่า 10,000 ชั่วโมง ไม่ว่าจากฮอลลีวูดหรือฮ่องกง กรุงโซลยันเซี่ยงไฮ้ เมืองไทยจนโตเกียว ไอฟลิกซ์นำความบันเทิงมาส่งมอบแบบไม่อั้น ทุกที่ ทุกเวลา ทุกจอ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ แท็บเล็ต โน้ตบุค ทีวี ฯลฯ ตรงถึงมือคุณ ด้วยราคาต่อเดือนที่ถูกกว่าแผ่นก็อปหนึ่งแผ่นซะอีกมาเล่นกันเถอะ