อิเกีย (IKEA) ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เตรียมรับซื้อคืนเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ใช้แล้ว เพื่อธุรกิจให้ยั่งยืนมากขึ้นและนำมาขายเป็นสินค้ามือสอง โดยจะรีบซื้อคืนในราคาสูงสุด 50% ของราคาเดิม
โครงการดังกล่าวจะเริ่มต้นตรงกับวัน Black Friday เพื่อให้ผู้บริโภคตระหนักถึงการบริโภคที่มากเกินไป “เพื่อให้การดำเนินชีวิตที่ยั่งยืนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น อิเกียหวังว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้ายืดหยัดต่อสู้กับการบริโภคที่มากเกินไปในวัน Black Friday ในปีนี้และในอนาคต”
การพิจารณามูลค่าของการรับซื้อคืนจะขึ้นอยู่กับสภาพของเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งจะถูกประเมินดังนี้ ‘สภาพเหมือนใหม่ ไม่มีรอยขีดข่วน’ จะได้รับมูลค่า 50% ของราคาเดิม ‘สภาพดี มีรอยเล็กน้อย’ จะได้รับมูลค่า 40%, 30% ของราคาเดิมตามลำดับ ผู้ที่นำเฟอร์นิเจอร์เก่ามาขายจะได้รับเป็นบัตรแทนเงินสดสำหรับซื้อของในอิเกียแบบไม่มีวันหมดอายุ
การรับซื้อคืนเป็นโครงการที่จะดำเนินการใน 27 ประเทศ โดยยังไม่มีรายงานว่าสาขาในประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหรือไม่
อย่างไรก็ตาม อิเกียตั้งเป้าที่จะดำเนินธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยจะเป็น ‘ธุรกิจหมุนเวียน’ ที่สามารถนำวัสดุหรือผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้
ความต้องการเฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้น
ในช่วงล็อกดาวน์ผู้คนจำเป็นต้องกักตัวอยู่ภายในบ้าน ความต้องการเฟอร์นิเจอร์จึงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาอิเกียวางแผนที่จะเปิดสาขาใหม่อีก 50 แห่งทั่วโลก
ทั้งนี้ ปัจจุบันอิเกียมีสาขาอยู่เกือบ 400 แห่งทั่วโลก โดยยอดขายของอิเกียตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาลดลงเพียงเล็กน้อยไปอยู่ที่ 1.46 ล้านล้านบาท